กู้ภัยโคราชนำ 11 ร่างเหยื่อรถตู้พลิกคว่ำส่งรพ.ตำรวจตรวจหาอัตลักษณ์

เมื่อวันที่ 23 มกราคม ที่ โรงพยาบาลสีคิ้ว อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ขบวนรถกู้ภัยของมูลนิธิพุทธรรมฮุก 31 นครราชสีมา ทยอยเดินทางเข้ามารับศพผู้เสียชีวิตจากกรณีอุบัติเหตุรถตู้พลิกคว่ำจนเกิดเพลิงไหม้ ทำให้มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุครั้งนี้ทั้งหมด 11 ราย รอดชีวิต 1 ราย เพื่อนำส่งไปยังสถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ ในการตรวจหาอัตลักษณ์ยืนยันตัวบุคคลด้วยการตรวจดีเอ็นเอจากญาติของผู้เสียชีวิต โดยญาติของผู้เสียชีวิตทั้งหมดต่างเดินทางไปยังสถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจด้วย

นายบรรพรต เกิดแก้ว เจ้าหน้ากู้ภัยฮุก 31 นครราชสีมา หัวหน้าชุดที่นำร่างของผู้เสียชีวิตไปส่งยัง รพ.ตำรวจ เปิดเผยว่า วันนี้ทางมูลนิธิพุทธรรมฮุก 31 นครราชสีมา ได้นำรถฉุกเฉินทั้งหมด 5 คัน เพื่อมารับร่างของผู้เสียชีวิตจากทาง รพ.สีคิ้วไปส่งยังสถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ เนื่องจากทาง รพ.สีคิ้ว ไม่มีพื้นที่ในการเก็บรักษาร่างของผู้เสียชีวิตอย่างเพียงพอ จึงจำเป็นต้องนำร่างของผู้เสียชีวิตไปไว้ที่ รพ.ใกล้เคียง โดยนำไปไว้ที่ รพ.เทพรัตน์นครราชสีมา อ.เมืองนครราชสีมา จำนวน 3 ร่าง รพ.สูงเนิน 1 ร่าง และ รพ.สีคิ้ว 7 ร่าง ระหว่างเดินทางมาก็รับร่างของผู้เสียชีวิตจาก รพ.ใกล้เคียงมาแล้ว และมารวมตัวกันที่ รพ.สีคิ้ว เพื่อนำร่างของผู้เสียชีวิตทั้งหมดไปยัง รพ.ตำรวจพร้อมกัน โดยจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมงถึง รพ.ตำรวจ

ด้าน พ.ต.อ.ยงยศ พลเดช ผกก.สภ.สีคิ้ว กล่าวถึงความคืบหน้าทางคดีความว่า ของรอผลตรวจจากทางเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานของทางตำรวจภูธรภาค 3 ก่อน และยังต้องรอสรุปผลตรวจรถจากทางสำนักงานขนส่งจังหวัดนครราชสีมาเพื่อยืนยันถึงสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุจนเกิดเพลิงลุกไหม้ แต่ข้อมูลเบื้องต้นจากทางสำนักงานขนส่งจังหวัดนครราชสีมา ทราบว่าเป็นรถยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิง 2 ระบบ คือระบบน้ำมันและระบบแก๊ส ถังที่บรรจุแก๊ส CNG ไม่พบร่องรอยแตกร้าวหรือความเสียหายที่เกิดจากการชนแต่อย่างใด ส่วนสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้รถตู้คาดว่าเกิดจากการชนจนทำให้มีน้ำมันเชื้อเพลิงรั่วซึมออกมา ประกอบกับรถตู้ได้เสียดสีกับเลนการ์ดจนเกิดประกายไฟ ทำให้เกิดเพลิงไหม้

ทั้งนี้ อยากฝากประชาสัมพันธ์ไปยังประชาชนที่ขับรถผ่านในบริเวณดังกล่าวในช่วงเวลาเกิดเหตุและมีการบันทึกภาพเหตุการณ์เอาไว้ได้ อยากให้เข้ามาให้ปากคำที่ สภ.สีคิ้วเพื่อเป็นประโยชน์ในการสืบสวนคดีนี้อย่างรอบด้านต่อไป

ข่าว/ภาพ : ประสิทธิ์ ตั้งประเสริฐ

Message us