
ประชาชนผู้มีรายได้น้อย ผู้สูงอายุ ซึ่งอยู่ในกลุ่มเปราะบางถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านตาดตรวน ต.ชุมเห็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ต่างให้ลูกหลานและคนรู้จัก นำเลขบัตรประจำตัวประชาชน 13 หลัก ช่วยตรวจเช็คสิทธิผ่าน “แอปรัฐจ่าย” ทางโทรศัพท์มือถือให้เพื่อตรวจสอบว่า จะได้รับโอนเงินดิจิทัล 10,000 บาทวันไหน เพราะบางคนไม่มีโทรศัพท์มือถือของตัวเองและบางคนก็ทำเองไม่เป็น แต่พอให้ลูกหลานและคนที่มีมือถือตรวจสอบให้แล้ว ระบบแจ้งว่าจะได้รับโอนเงินวันไหนต่างก็ดีใจ หลังจากที่รอคอยมานานหลายเดือน และดีใจที่รัฐบาลจะโอนให้เป็นเงินสดเพราะจะได้ใช้จ่ายสะดวก

ทั้งนี้ ต่างพูดตรงกันว่าหากรัฐให้ใช้ผ่านระบบดิจิทัลเหมือนก่อนหน้านี้ที่มีเงื่อนไขและข้อกำจัดมาก ก็ยังหนักใจว่าจะใช้ยังไง แต่พอรัฐประกาศจะจ่ายเป็นเงินสดโดยการโอนเข้าบัญชีก็ดีใจ เพราะแต่ละคนมีความจำเป็นในการใช้จ่ายเงินที่แตกต่างกันแต่ก็แอบกังวลว่าหลังจากรัฐบาลทยอยโอนเงินดิจิทัล 10,000 บาท ที่จะเริ่มโอนให้คนพิการก่อนในวันพรุ่งนี้ 25 ก.ย.67 สินค้าอุปโภคบริโภคจะปรับราคาขึ้นตามไปด้วย เพราะทุกวันนี้ข้าวของก็แพงขึ้นต่อเนื่องอยู่แล้ว จึงอยากให้รัฐบาล

นางสมบัติ ยิ้มจันทร์ อายุ 58 ปี และ นางสงวน สำรวมรัมย์ อายุ 67 ปี ชาวบ้านตาดตรวน ต.ชุมเห็ด ซึ่งอยู่ในกลุ่มเปราะบางที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ บอกว่า หลังตรวจเช็คสิทธิแล้วทราบว่า ตัวเองจะได้รับเงินโอนวันไหนก็ดีใจ หลังจากรอมานานหลายเดือน ก็ตั้งใจว่าหากได้รับเงิน 1 หมื่นจะเอาไปซื้อข้าวสาร และของใช้ที่จำเป็น รวมถึงจ่ายค่าน้ำค่าไฟ เชื่อว่าจะแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายได้ โดยเฉพาะในยุคที่เศรษฐกิจย่ำแย่หากินยากลำบาก แต่ราคาสินค้ากลับแพงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ก็แอบกังวลว่าพอรัฐประกาศเริ่มโอนเงิน 1 หมื่นแล้ว ข้าวของก็จะปรับราคาขึ้นอีก จึงอยากฝากให้รัฐบาลช่วยควบคุมราคาสินค้าไม่ให้สูงขึ้นมากกว่านี้ ไม่เช่นนั้นได้เงิน 1 หมื่นมาแต่ของแพงขึ้นก็ไม่ได้ช่วยอะไร
ข่าว/ภาพ : สุรชัย พิรักษา ผู้สื่อข่าวจังหวัดบุรีรัมย์