กลุ่มสุราชุมชนขอนแก่นยันมาตรฐานการผลิตปลอดภัยไร้กังวล

ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่วิสหกิจชุมชนโนนหนองลาด กลุ่มเมล็ดพันธุ์และการแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร ซึ่งตั้งอยู่ เลขที่ 174 ม.7 บ้านโนนเชือก ต.บ้านขาม อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น เพื่อพูดคุยกับกลุ่มผู้ผลิตสุราชุมชนกลั่นจากข้าวอินทรีย์ถึงผลกระทบจากข่าวที่มีคนดื่มเหล้ายาดองแล้วเสียชีวิตและบาดเจ็บต้อเข้าห้องไอซียูหลายรายในพื้นที่กรุงเทพมหานคร

น.ส.สุภาพรรณ อุปฮาด อายุ 27 ปี สมาชิกวิสหกิจชุมชนโนนหนองลาด บอกว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้คนมองว่าโรงงานเหล้าชุมชนจะเหมือนกันกับที่เป็นข่าวหรือไม่ บางคนอาจจะแยกแยะไม่ได้ เพราะถ้าไม่ได้รู้จักจริงๆไม่รู้จักที่มาที่ไปจริงๆ อาจจะเข้าใจไปในทำนองเดียวกัน ซึ่งโรงงานขนาดเล็กมีการตรวจมาตรฐานด้วยการสุ่มตรวจตัวอย่างให้กับสรรพสามิต เพื่อนำไปตรวจหาสิ่งแปลกปลอม และ มีส่วนผสมอะไรบ้าง ดังนั้นเมื่อเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ยอมรับว่า ยอดลดลงอาจจะด้วยกระแสความนิยมลดลงด้วยอาจจะมีผลกับข่าวกินยาดองแล้วเสียชีวิตด้วยส่วนหนึ่งเพราะบางคนก็ไม่แน่ใจอาจจะชะลอการสั่งซื้อไว้ก่อน

“ยาดองเหล้าที่กินแล้วเสียชีวิตกับสิ่งที่กลุ่มทำไม่เหมือนกัน เพราะในส่วนที่กินแล้วเสียชีวิตคิดว่าน่าจะใช้แอลกอฮอล์ผิดประเภท แต่โรงกลั่นสุราชุมชนนั้นมีมาตรฐาน มีการตรวจวัดคุณภาพตลอดสามารถดื่มกินได้และเอาไปหมักต่อกับสมุนไพรที่เป็นตัวยาได้ การควบคุมที่มีมาตรฐานเป็นสิ่งสำคัญอยากให้เป็นเพื่อผู้บริโภคจริงๆ ไม่ใช่มานั่งจับผิดคนผลิตถ้าทำได้จริงๆผู้บริโภคจะรู้สึกปลอดภัยและเป็นผลดีกับผู้บริโภค” น.ส.สุภาพรรณ กล่าว

ขณะที่ ผศ.ดร.ฐิติกานต์ สมบูรณ์ อ.ประจำสาขาวิชาเคมีเชิงฟิสิกส์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตขอนแก่น บอกว่า สำหรับแอลกอฮอล์บริสุทธ์มี 2 ประเภท คือ เอทานอล เป็นประเภทที่รับประทานได้ และเมธานอล หรือเมทิลแอลกอฮอล์ เป็นประเภทรับประทานไม่ได้ กระบวนการสังเคราะห์ เป็นสารอันตราย จะมีหลายเกรด เช่น เกรดที่ใช้ในทางเคมีวิเคราะห์ ในส่วนที่เป็นข่าวนั้น เป็นฟู๊ดเกรด มีความแตกต่างด้านราคา เช่น เอทานอลราคา 160 บาทต่อลิตร ส่วนเมธานอลราคา 60 บาท ต่อลิตร อาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้ประกอบการนำไปผสมทำเป็นยาดอง เมื่อสังเกตทางกายภาพ พบว่า สารทั้ง 2 ชนิดนี้แยกกันยาก แต่หากดื่มเข้าไปแล้วให้สังเกตุได้จากมีอาการผิดปกติหรือไม่ เช่น อาการเมา แสบตา แสบร้อนที่ทรวงอก ใช้เวลาไม่นานจะปรากฎอาการเหล่านี้ เวลาในการออกฤทธิ์ไม่นานจะปรากฏอาการเฉียบพลันได้ เวลาไม่นานจะมีอาการที่ต่างจากการดื่มสุราทั่วไป เพราะหากเป็นสุราที่ดื่มตามปกติ มีองค์ประกอบหลายด้านทั้งปริมาณที่ดื่มใช้เวลาสักพักจึงจะมีอาการเมา

“สำหรับแอลกอฮอล์บริสุทธิ์ ประมาณ 99% มีความเข้มข้นสูง ลักษณะทางกายภาพของแอลกอฮอร์ทั้ง 2 ประเภทนี้ คือ สีใสแยกยากเหมือนน้ำ การสูดดมเข้าไปในปริมาณมาก จะทำให้เกิดอาการวิงเวียนส่วนที่ต่างกันคือ กลิ่น เอทิลแอลกอฮอร์จะมีกลิ่นเบา ไม่ฉุน หากเป็นเมทานอล จะมีกลิ่นฉุนแรง ในส่วนที่ใช้ในการดองสุรา จะใช้เหล้าขาวที่เป็นเมทิลแอลกอฮอล์ เอทานอล โดยใช้กระบวนการหมัก แล้วนำไปต้ม เราจะได้เอทิลแอลกอฮอร์ หรือเอทานอล ซึ่งเป็นแอลกอฮอร์ที่สามารถรับประทานได้ซึ่งเหล้าขาว เบียร์ ไวน์ ซึ่งมีลักษณะทางกายภาพเหมือนกัน ตามภูมิปัญญาของขาวบ้านจะทำเหล้าขาวจากพืช เช่น ข้าว อ้อย ข้าวโพด เป็นต้น โดยนำไปหมักแล้วกลั่นออกมา หากดูตามกระบวนการหมักสุราพื้นบ้านแล้ว ที่ชาวบ้านผลิตในชุมชน เมื่อนำไปหมัก กลั่น ต้มตามกระบวนการแล้ว จะได้แอลกอฮอร์ที่เราเรียกว่า เอทานอลที่ดื่มได้ เพราะกระบวนการหมักจะเกิดเมธานอลยาก ระดับชุมชนที่หมักและทำอยู่แล้ว จะมีวิธีการควบคุมคณภาพ”ผศ.ดร.ฐอตอกานต์กล่าว

ผศ.ดร.ฐิติกานต์ กล่าวต่ออีกว่า ความรู้ความเข้าใจของประชาชน ถือว่ายังมีน้อย เพราะคนที่มีการผลิต ซื้อขายมานานยังไม่รู้ว่า แอลกอฮอล์ชนิดนี้อันตราย เพราะมีปัจจัยหลายอย่าง ที่ทำให้การเข้าถึงแหล่งความรู้ยาก เพราะชาวบ้านจะเข้าใจว่า สุราสามารถดื่มได้ ที่สำคัญที่สุดคือผู้ผลิตต้องมีจรรยาบรรณ ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผู้ผลิตใช้เมทิลแอลกอฮอร์เป็นส่วนผสม เพราะต้องการลดต้นทุนการผลิต เพราะราคาที่ต่างกัน แต่ไม่คำนึงถึงว่าจะเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค อย่างไรก็ตามหากไม่มั่นใจให้ผู้บริโภคตั้งข้อสังเกตเรื่องราคา ที่อาจจะถูกกว่าท้องตลาด ให้สันนิษฐานว่าเป็นเหล้าผสม

ข่าว/ภาพ : จักรพันธ์ นาทันริ ผู้สื่อข่าวจังหวัดขอนแก่น

Message us