“มนุษย์ล้อ”บุกสภาทนายความขอความเท่าเทียมทางกม.

เมื่อวันที่ 18 ที่สภาทนายความ ในพระบรมราชูปถัมภ์ นายกฤษนะ ละไล ประธานมูลนิธิอารยสถาปัตย์เพื่อคนทั้งมวล ตัวแทนภาคีเครือข่ายขับเคลื่อนขนส่งมวลชนเพื่อคนทั้งมวล ได้เดินทางมายื่นหนังสือเพื่อขอให้สภาทนายความช่วยเหลือทางกฎหมาย กรณีสายการบินต่างชาติแห่งหนึ่งปฏิเสธไม่ให้เดินทาง ด้วยเหตุผลไม่สามารถเดินเองได้ โดยมี ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ นายสัญญาภัชระสามารถ อุปนายกฝ่ายปฏิบัติการ นายวรกร ไหลหรั่ง ประธาอนุกรรมการสิทธิมนุษยชนด้านบุคคลพิการ ทุพพลภาพและผู้ด้อยโอกาส สภาทนายความ และ นายสนธิพงศ์มงคลสวัสดิ์ รองประธานอนุกรรมการสิทธิมนุษยชนด้านบุคคลพิการ ทุพพลภาพและผู้ด้อยโอกาส สภาทนายความ รับเรื่อง

ทั้งนี้ นายกฤษนะ ได้เรียกร้องให้สภาทนายความดำเนินการด้านกฎหมายกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดการแก้ไขปัญหา และป้องกันมิให้มีการเลือกปฏิบัติต่อผู้โดยสารที่มีความ พิการหรือข้อจำกัดทางการเคลื่อนไหว

นายกฤษนะ กล่าวว่า วันนี้มาในฐานะตัวแทนภาคี ภาคีเครือข่ายขับเคลื่อนขนส่งมวลชนเพื่อคนทั้งมวลที่ทำงานเพื่อคนพิการ มาเพื่อขอเป็นธรรม ด้าน กฎหมายต่างๆเรื่องเครื่องบินทั้งในและต่างประเทศ ตนเอง ถูกปฏิเสธ เมื่อ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ตนจะไปทำงานที่ จ.พะเยา ต้องขึ้นเครื่องที่สนามบินสุวรรณภูมิ ไปเชียงรายแล้วต่อรถยนต์ โดยได้นัดผู้ใหญ่ อย่าง ผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นต้นวันนั้นได้จองสายการบินหนึ่งที่ไฟล์เช้า เวลา 06.30 ตนทราบข่าวมาบ้างว่าสายการบินนี้ปฏิเสธไม่รับคนพิการ แต่ปกติตนก็เดินทางบ่อยในประเทศต่างประเทศไม่เคยเจอปัญหา วันดังกล่าวเองตนก็มีทีมงาน 5 คน ที่คอยช่วยอำนวยความสะดวกเวลาตนเดินทาง เมื่อไปถึงเคาน์เตอร์เช็คอินของสายการบิน ปรากฎมีเจ้าหน้าที่ แจ้งว่าทางสายการบินไม่มีนโยบายบริการดูแล คนพิการใช้วิลแชร์ เพราะไม่มีรถเคบิน รวมทั้งพนักงานบริการ ให้เหตุผลว่า เดินเองไม่ได้

ทั้งนี้ ตนอธิบายว่ามีงานสำคัญ นัดผู้ใหญ่คนสำคัญไว้แล้ว และมีทีมงานเดินทางไปด้วย ท้ายที่สุดทางสายการบินดังกล่าวก็ยืนยันว่าเดินทางไม่ได้ ตนรู้สึกเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเรื่องเลวร้ายที่สุดในชีวิตกับการเดินทางด้วยสายการบิน ตนช็อกมาก รู้สึกว่ายังมีการเลือกปฏิบัติกับคนพิการอยู่ ทั้งที่ไม่ควรจะเกิดขึ้นในปัจจุบันอีกแล้ว ยิ่งนายก มีนโยบายศูนย์กลางการท่องเที่ยว (Tourism Hub). หากว่ามีบุคคลอื่นหรือคนต่างชาติ ถูกปฏิเสธอย่างตนอาจจะทำลายชื่อเสียงของประเทศได้ จึงมาขอความช่วยเหลือกับทางสภาทนายฯ ขอความเป็นธรรม ละเมิดเกียรติและศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ และเรียกร้องไม่ให้เกิดเหตุนี้อีก

ขณะที่ ผู้พิการใช้วิลแชร์คนอื่นก็ได้ออกมาให้ข้อมูลตรงกันว่า ถูกสายการบินดังกล่าวปฏิเสธไม่ให้เดินทางเช่นกัน ทั้งๆที่เวลาพวกตนใช้บริการสายการบินอื่นก็ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม เดินทางได้ปกติ

ด้าน ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ กล่าวว่า สภาทนายความเล็งเห็นความสำคัญของคนพิการและส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตของบุคคลพิการ ซึ่งที่ผ่านมาสภาทนายความได้ลงนามบันทึกความร่วมมือเพื่อให้คำปรึกษาทางกฎหมายและปฏิบัติงานทางคดีให้แก่คนพิการหรือองค์กรด้านคนพิการ และจัดอบรมให้ความรู้ทางกฎหมาย รวมถึงพัฒนากฎหมายและนโยบายสาธารณะให้สิทธิคนพิการเป็นจริงตามอนุสัญญา ว่าด้วยสิทธิคนพิการ (Convention on the Right of People with Disability, CRPD) ซึ่งเป็นกฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศที่ส่งเสริมพิทักษ์และรับรองให้คนพิการได้รับการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนเสรีภาพขั้นพื้นฐานและมีความเสมอภาคอย่างไรก็ตามในเรื่องนี้สภาทนายความจะตั้งคณะทำงานให้ความช่วยเหลือทางคดีต่อไปสำหรับภาษีเครือข่ายขับเคลื่อนขนส่งมวลชนเพื่อคนทั้งมวล ประกอบด้วย องค์กรและภาคเครือข่ายๆและภาคประชาชน

ดร.วิเชียร กล่าวต่อว่า สภาทนายความเราจะดูแลประชาชนทุกหมู่เหล่า และตนให้ความสำคัญกับคนพิการเนื่องจากมีความด้อยโอกาส กว่าคนอื่นอยู่แล้ว เราจะไม่ทิ้งคนพิการไว้ข้างหลัง และจะดูแลอย่างดีขอให้ประชาชนมั่นใจว่าทางสภาทนายความจะดูแลประชาชนในข้อกฎหมายทุกหมู่เหล่า และคนพิการเป็นกรณีพิเศษ เพื่อให้มีโอกาสเท่าเทียมหรือมากกว่าคนปกติ หลังจากได้รับเรื่องร้องเรียนในวันนี้เราจะช่วยเหลือเต็มที่ ในเบื้องต้นจะต้องตรวจดูเอกสารของผู้ร้อง ว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร พร้อมทั้งสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติม เพื่อเป็นผลดีกับรูปคดีมากที่สุด แต่ถ้าตามหลักการแล้วทุกสายการบินไม่สามารถปฏิเสธคนพิการได้ และยังมีอนุสนธิสัญญาระหว่างประเทศ ส่วนบทลงโทษสายการบินนั้นเพราะจะต้องไปดูระเบียบข้อกฎหมายอีกที โดยหน่วยงานที่กำกับดูแลสายการบินคาดว่าน่าจะเป็นกรมการบินพลเรือน ซึ่งเมื่อมีการดำเนินคดีและมีคำพิพากษาเราก็จะใช้ตรงนี้ ดำเนินการต่อไป โดยเบื้องต้นน่าจะผิดละเมิดสิทธิ เเละยังเป็นเรื่องละเมิดสิทธิคนพิการเป็นคดีแพ่ง

ขณะที่ นางสุพรณี กิตติรัตนา ผู้ประสบอุบัติเหตุทางเลื่อนสนามบินดอนเมือง กล่าว่า ว่า วันนี้ตนก็มาให้กำลังใจพวกพี่ๆ คนพิการ ส่วนเรื่องคดีของตนเองก็ผ่านมา 9 เดือนแล้ว เพราะเหตุเกิดตั้งแต่ 29 มิ.ย.66 ตนได้เรียกร้องค่าเสียหายไปตอนนี้อยู่ระหว่างประกันของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) เจรจากับพวกตนอยู่เป็นการต่อรองเรื่องราคา ตอนนี้รอทาง บ.ท่าอากาศยานไทยพิจารณา อย่างไรก็ตามในสัปดาห์หน้าตนจะติดตามเรื่อง

ทั้งนี้ ตนเองเคยเป็นคนปกติจนกระทั่ง เกิดอุบัติเหตุเกิดความร่างกาย และเกิดความเสียหายต่อเนื่องในครอบครัวและการทำงาน จึงอยากเรียกร้องทางหน่วยงานที่เหี่ยวข้อง ให้ช่วยเหลือตามมาตรการที่เขาสามารถทำได้ให้เร็วขึ้น เพราะตอนนี้ใกล้กำหนดเวลา 1 ปี ในส่วนของสถานที่บริการก็อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดูแลสถานที่ที่ประชาชนใช้บริการ ให้มีความแข็งแรง เรียบร้อย อย่างใส่ใจ ให้มีความปลอดภัยและมั่นใจมากขึ้น

Message us