กระบี่เตรียมความพร้อมเกษตรกรเปลี่ยนพื้นที่การปลูกปาล์มน้ำมันมาปลูกข้าว

นายอังกูร ศีลาเทวากูล ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เป็นประธานเปิดกิจกรรมเกี่ยวข้าว โครงการปลูกข้าวเพื่อบริโภคครบวงจรในเขตนิคมสหกรณ์อ่าวลึก อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ณ แปลงนายธเนศ บุษย์เพชร บ้านปากน้ำ หมู่ที่ 1 ต.ปลายพระยา อ.ปลายพระยา จ.กระบี่ เนื้อที่ 1 ไร่ 3 งาน ที่เปลี่ยนจากพื้นที่ปลูกปาล์มน้ำมัน อายุ 30 ปี มาปลูกข้าวพันธุ์ข้าวปทุมธานี 1 และพันธุ์ กข 109 โดยมีหัวหน้าส่วนราชการหน่วยงานสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในจังหวัดกระบี่ นายอำเภอ คณะครูนักเรียน และกลุ่มเกษตรกรเข้าร่วมกิจกรรม

นายอังกูร กล่าวว่า สืบเนื่องจากการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เขตพื้นที่จังหวัดกระบี่ ตามข้อเสนอแนะของพลเอก กัมปนาท รุดดิษฐ์ องคมนตรี เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2565 ณ โครงการปลูกข้าวเพื่อบริโภคครบวงจรในเขตนิคมสหกรณ์อ่าวลึก อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ที่ให้จังหวัดกระบี่สำรวจข้อมูลจากราษฎร หรือทำประชาคมสอบถามความต้องการที่จะเปลี่ยนพื้นที่การปลูกปาล์มน้ำมันมาปลูกข้าว พร้อมทั้งสำรวจพื้นที่นาของเกษตรกรว่ามีความพร้อมหรือไม่ ซึ่งจังหวัดกระบี่ ได้มอบหมายให้สำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดกระบี่เป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินการตามข้อเสนอแนะดังกล่าว

ทั้งนี้ สำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดกระบี่ จึงร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการคัดเลือกเกษตรกรที่มีศักยภาพและความพร้อมในการสืบสานปณิธานของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ให้คงอยู่ในเขตนิคมสหกรณ์อ่าวลึกอันเนื่องมาจากพระราชดำริ โดยการปรับเปลี่ยนพื้นที่จากการปลูกปาล์มน้ำมันมาเป็นนาข้าว และบริหารจัดการน้ำจากโครงการอ่างเก็บน้ำคลองหยา ตำบลปลายพระยา อำเภอปลายพระยา จังหวัดกระบี่ ให้เกิดประโยชน์ต่อภาคการเกษตรอย่างมีประสิทธิภาพ ปัจจุบันโครงการปลูกข้าวเพื่อบริโภคครบวงจรในเขตนิคมสหกรณ์อ่าวลึก อันเนื่องมาจากพระราชดำริ มีเกษตรกรจำนวน 22 ราย มีพื้นที่ปลูกข้าว 112 ไร่ สามารถปลูกข้าวได้ปีละ 2 ครั้ง ทั้งนาปี และนาปรัง สำหรับจังหวัดกระบี่พื้นที่นาประมาณ 7,000 ไร่ มีเกษตรกรได้ขึ้นทะเบียนปลูกข้าวประมาณ 5,000 ไร่

ผู้ว่าฯกระบี่ กล่าวว่า โครงการปลูกข้าวเพื่อบริโภคครบวงจรในเขตนิคมสหกรณ์อ่าวลึก อันเนื่องมาจากพระราชดำริ เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริของพระบาทสมเด็จ พระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ซึ่งเมื่อวันที่ 23 กันยายน 2530 ได้ทรงมีพระราชดำริ ณพระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ จังหวัดนราธิวาส ให้เกษตรกรในเขตนิคมสหกรณ์อ่าวลึกซึ่งเคยทำนามาก่อนและได้เลิกร้างไปเนื่องจากฝนทิ้งช่วง ให้หันกลับมาทำนาปลูกข้าว เพื่อบริโภคกันเองในกลุ่มสมาชิกนิคมอีกครั้ง เนื่องจากสมาชิกส่วนใหญ่มีอาชีพทำสวนปาล์มน้ำมันและยางพาราเป็นอาชีพหลัก จึงต้องซื้อข้าวสารจากแหล่งอื่นมาบริโภค จึงจัดให้มีโรงสีข้าวขนาดเล็กสามารถผลิตข้าวสารเพื่อบริโภคกันเองได้อย่างครบวงจร และเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2557 สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมราษฎรหมู่ 1 บ้านปากน้ำ อำเภอปลายพระยา และทรงประกอบพิธีโยนกล้าข้าวพันธุ์ปทุมธานี 1 ในแปลงเกษตรกรผู้ปลูกข้าวด้วย

Message us