
เมื่อวันที่ 10 มีนาคม พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม น.ส.จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง นายสุรชาติ เทียนทอง เลขานุการรมช.คลัง นายพลนชชา จักรเพ็ชร ที่ปรึกษารมช.คลัง ร่วมแถลงข่าว กรมศุลกากรยึดบุหรี่ไฟฟ้าผ่านแดน กว่า 2 แสนชิ้น มูลค่า 33.07 ล้านบาท โดยมี นายธีรัชย์ อัตนวานิช อธิบดีกรมศุลกากร พ.ต.ต. ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ นายดิเรก คชารักษ์ รองอธิบดีกรมศุลกากร พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และพล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ณ ศูนย์เอกซเรย์และเทคโนโลยีศุลกากร สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง เปิดเผยว่า ตามที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีนโยบายสั่งการให้ปราบปรามการลักลอบนำเข้า – ส่งออกบุหรี่ไฟฟ้าอย่างจริงจัง รวมถึงการลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าอย่างเร่งด่วนให้เห็นผลภายใน 30 วัน นับแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2568 โดยเฉพาะในกลุ่มนักเรียนและร้านค้ารอบสถานศึกษา เพื่อความปลอดภัยและสุขภาพที่ดีของประชาชน ด้านนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ขานรับนโยบายและสั่งการให้กรมศุลกากร โดยนายธีรัชย์ อัตนวานิช อธิบดีกรมศุลกากร เพิ่มความเข้มงวดเพื่อตอบสนองนโยบายอย่างเคร่งครัด พร้อมกำชับให้เจ้าหน้าที่เพิ่มการเฝ้าระวังการลักลอบนำเข้าและส่งออกบุหรี่ไฟฟ้าทุกช่องทาง รวมถึงการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2568 เวลา 18.00 น. กรมศุลกากร โดยสำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง และกองสืบสวนและปราบปรามกรมสอบสวนคดีพิเศษ สถานีตำรวจภูธรเมืองชลบุรี สถานีตำรวจภูธรแหลมฉบัง และตำรวจภูธรภาค 2 ร่วมกันตรวจสอบ
ตู้สินค้าผ่านแดน จำนวน 1 ตู้คอนเทนเนอร์ ณ ท่าเรือ LCMT (A0) สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง ประเทศต้นทางจาก CHINA ส่งไปยังประเทศ Myanmar นำเข้าสินค้าผ่านท่าเรือแหลมฉบัง และจะไปทำการตรวจปล่อยที่ด่านศุลกากรแม่สอด สำนักงานศุลกากรภาคที่ 3 โดยสำแดงสินค้าเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ อุปกรณ์ทางการแพทย์ ส่วนประกอบรถยนต์ เครื่องจักรและอื่น ๆ จำนวน 1,173 กล่อง ผลการตรวจสอบพบบุหรี่ไฟฟ้าชนิดใช้แล้วทิ้ง 6,000 ชิ้น มูลค่า 1,200,000 บาท น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า 6,000 ชิ้น มูลค่า 900,000 บาท หัวพ็อดบุหรี่ไฟฟ้าที่ภายในบรรจุน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า 190,100 ชิ้น มูลค่า 28,515,000 บาท และเครื่องบุหรี่ไฟฟ้า พร้อมน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า 8,200 ชิ้น มูลค่า 2,460,000 บาทรวมทั้งหมด 210,300 ชิ้น มูลค่ารวม 33,075,000 บาท
สำหรับ สถิติการจับกุมบุหรี่ไฟฟ้า ในปีงบประมาณ 2568 (1 ตุลาคม 2567 – 7 มีนาคม 2568) จับกุมได้ 298 คดี มูลค่า 73.25 ล้านบาท
