
เมื่อวันที่ 28 มีนาคม ดร.พวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มอบนโยบาย “รู้เท่าทันบุหรี่ไฟฟ้า ในสถานศึกษา กทม.” ในกิจกรรมการเสวนา ที่จัดขึ้นให้แก่คณะผู้บริหารสถานศึกษาในเขตกรุงเทพมหานคร จำนวน 437 แห่ง โดยมี นายวราวุธ ยันต์เจริญ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นางวันทนีย์ วัฒนะ ปลัดกรุงเทพมหานคร และคณะผู้บริหาร เข้าร่วม ที่อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง
ดร.พวงเพ็ชร กล่าวว่า บุหรี่ไฟฟ้าเป็นภัยอันตรายที่น่ากังวลของสังคมไทยในยุคปัจจุบัน สิ่งสำคัญของการขับเคลื่อนการทำงานเพื่อกวาดล้างบุหรี่ไฟฟ้าให้ประสบผลสำเร็จ คือการที่ทุกหน่วยงานบูรณาการความร่วมมือกัน ในส่วนของตนได้รับมอบหมายจากท่านนายกรัฐมนตรีให้กำกับดูแลสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ สคบ. ได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้ปกครองว่ามีการลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าใกล้บริเวณสถานศึกษาและแหล่งชุมชน ที่ผ่านมาตนได้ร่วมลงพื้นที่ตรวจจับหลายครั้ง รวมถึงมีการตั้งหน่วยเฉพาะกิจ หลายหน่วย โดยความร่วมมือกับกรุงเทพมหานคร กระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบว่ามีการลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าทั้งที่จำหน่ายในพื้นที่ชุมชนและใกล้เคียงสถานศึกษาจำนวนมาก ขณะเดียวกันเราได้ประสานความร่วมมือกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เพื่อปราบปรามแหล่งจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าที่ลักลอบขายออนไลน์ ซึ่งมีการปิดเว็บไซต์แล้ว จำนวน 1,700 เว็บ

ดร.พวงเพ็ชร เน้นย้ำให้คณะผู้บริหารสถานศึกษา ยึดถือการแก้ปัญหาบุหรี่ไฟฟ้าเป็นวาระสำคัญ ขอให้อบรมและให้ความรู้นักเรียน โดยสอดแทรกเนื้อหาภัยของบุหรี่ไฟฟ้าที่ส่งผลต่อสุขภาพและพัฒนาการ สร้างความตระหนักรู้ในกลุ่มเด็กและเยาวชน ให้ “รู้เท่าทันโทษของบุหรี่ไฟฟ้า” สร้างค่านิยม “เด็กรุ่นใหม่ไม่เอาบุหรี่ไฟฟ้า” พร้อมขอความร่วมมือจากผู้ปกครองและประชาชนทั่วไป หากพบเห็นการลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าทั้งที่มีหน้าร้านและผ่านระบบออนไลน์ ขอให้แจ้งมายังสายด่วน สคบ. 1166 แอปพลิเคชัน OCPB Connect และไลน์ @Traffyfondue ของกรุงเทพมหานคร
ด้าน นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าฯกทม. กล่าวว่า การเสวนาในวันนี้เป็นเรื่องสำคัญมาก ตนจำได้ว่าตอนที่เข้ามารับตำแหน่งใหม่ๆ มีภัยคุกคามหนึ่งที่ท่านผู้ว่าฯ กทม. ให้ความสำคัญมากคือ เรื่องกัญชา กัญชง และกระท่อม ตอนนั้นก็มีประกาศของกรุงเทพมหานครอย่างเร่งด่วน ภายในไม่ถึงสัปดาห์ก็มีการพูดคุยกับผู้บริหารโรงเรียนทุกท่านว่า อยากให้ดูแล ให้กําชับลูกหลานของเราว่า กัญชา กัญชง กระท่อมเป็นเรื่องที่มีความสำคัญ ไม่นานเท่าไหร่ยาเสพติด สารต่างๆ ก็มีนวัตกรรมที่มากขึ้นและเพิ่มขึ้น มาในรูปแบบที่หลากหลาย ออกแบบสวยงาม เหมือนไม่มีพิษ แต่จริงๆ คือยาเสพติด ท่านผู้ว่าฯ กทม. จึงให้นโยบายว่าเราควรจะคุยกับผู้รู้ ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญ ไม่ใช่แค่ในสำนักการศึกษา อีกทั้งได้รับนโยบายของทางรัฐบาลนําโดยท่านรัฐมนตรีพวงเพ็ชร ได้กําชับและมีนโยบายเรื่องของบุหรี่ไฟฟ้า จึงอยากให้ทุกโรงเรียนตรวจค้นอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่แค่บุหรี่ไฟฟ้าอย่างเดียว รวมทั้งกัญชา กัญชง กระท่อม ยาเสพติดอื่นๆ รวมถึงเรื่องของอาวุธด้วยเช่นกัน

ทั้งนี้ กรุงเทพมหานคร โดยสำนักการศึกษามีความห่วงใยนักเรียนในเรื่องของบุหรี่ไฟฟ้า จึงรวมพลังผู้บริหารสถานศึกษาทั้ง 437 แห่ง มาร่วมกันสร้างรั้วโรงเรียนที่แข็งแกร่ง เพื่อปกป้องนักเรียนของเราที่มีกว่า 2 แสนคน ให้รอดปลอดภัยจากพิษร้ายของบุหรี่ไฟฟ้า โดยจัดให้มีการเสวนาในประเด็น “รู้เท่าทันบุหรี่ไฟฟ้า ในสถานศึกษา กทม.” เพื่อสร้างความตระหนักถึงพิษภัยของบุหรี่ไฟฟ้า รู้และเข้าใจสถานการณ์ พัฒนาการการปรับเปลี่ยนรูปแบบสีสัน วิธีการ อย่างเท่าทันทั้งผู้สูบและผู้ขาย ร่วมกันสร้างกำแพงกั้นพิษภัยสู่ลูกหลาน เด็กและเยาวชน
อย่างไรก็ตาม การเสวนาวันนี้ได้รับเกียรติจากทีมวิทยากรผู้มากด้วยความรู้และหลากหลายประสบการณ์ที่จะช่วยให้เกิดความเข้าใจและรู้เท่าทันกับบุหรี่ไฟฟ้า อาทิ พ.ต.อ. ประทีป เจริญกัลป์ รองเลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ดร.ชนะ สุ่มมาตย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาการแนะแนว รักษาการในตำแหน่งที่ปรึกษาด้านการศึกษาพิเศษและผู้ด้อยโอกาส สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน รศ.ดร.แพทย์หญิงเริงฤดี ปธานวนิช ภาควิชาเวชศาสตร์ชุมชน คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี และนายพชรพรรษ์ ประจวบลาภ เลขาธิการสถาบันยุวทัศน์แห่งประเทศไทย เป็นต้น
