เมื่อวันที่ 10 มิถุนายนผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจราคาไข่เป็ด และไข่ไก่ ในตลาดสดแม่กิมเฮง ภายในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา พบว่าบรรดาพ่อค้า แม่ค้า ตามแผงขายปลีกไข่เป็ด และไข่ไก่ ต่างบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่าปีนี้ไข่เป็ด และไข่ไก่ ขายได้น้อยลง เนื่องจากราคาสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ลูกค้าลดการซื้อลงไปถึง 20% ภายหลังจากที่ปีนี้ไข่หน้าฟาร์ม มีการปรับราคาขึ้นไปแล้วถึง 6 ครั้ง โดยการปรับราคาขึ้นล่าสุด เมื่อวันที่ 15 พ.ค.66 ไข่ไก่คละหน้าฟาร์ม ปรับขึ้นราคาเป็นฟองละ 3.80 บาท ส่วนไข่เป็ดคละหน้าฟาร์ม ปรับขึ้นราคาเป็นฟองละ 5.30 บาท
น.ส.วงเพชร สังข์ฆพงษ์ แม่ค้าแผงขายผักสดและไข่ไก่ ในตลาดแม่กิมเฮง บอกว่า ไข่เป็ด ไข่ไก่ ถือว่าเป็นสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นของประชาชนมาก เพราะราคาไม่แพง สามารถนำไปประกอบอาหารได้หลายชนิด คนนิยมซื้อไปบริโภคเป็นอย่างมาก แต่ช่วงหลังๆ มานี้ทั้งไข่เป็ดและไข่ไก่ มีการปรับราคาสูงขึ้นต่อเนื่อง จนทำให้ลูกค้าขาประจำส่วนใหญ่ลดการซื้อไข่ไปบริโภคลง เฉพาะที่ร้านของตนตั้งแต่ต้นปีจนถึงขณะนี้ลูกค้าประจำที่มาซื้อไข่ลดลงถึง 20% แม้ว่าราคาหน้าฟาร์มจะขึ้นถึง 6 ครั้งในรอบปีนี้ แต่ที่ร้านของตน ซึ่งเป็นแผงค้าปลีก ด่านสุดท้ายก่อนถึงมือประชาชนผู้บริโภค ก็ไม่กล้าที่จะปรับขึ้นราคาตามทุกครั้ง โดยเพิ่งปรับขึ้นไปแค่ 2 ครั้งเท่านั้น เพราะกลัวว่าลูกค้าจะหายไปหมด
ทั้งนี้ อยากฝากถึงว่าที่รัฐบาลชุดใหม่ช่วยเหลือทำให้ราคาไข่เป็ด ไข่ไก่ ลดลงกว่านี้ เพราะเท่าที่ทราบมา ไข่ที่ออกมาจากหน้าฟาร์มก็ไม่ได้สูงมากนัก แต่เมื่อผ่านมือพ่อค้าคนกลาง มาถึงพวกตนกลับมีราคาสูงมากเกินไป อีกทั้งในส่วนของผู้เลี้ยงเป็ดไข่ เลี้ยงไก่ไข่ ก็ได้รับผลกระทบจากราคาต้นทุนการเลี้ยงที่สูงขึ้น ทั้งราคาหัวอาหาร ราคายา ราคาน้ำมัน และค่าน้ำ ค่าไฟ เป็นต้น จึงอยากให้ว่าที่รัฐบาลชุดใหม่ ไปแก้ปัญหาเหล่านี้เป็นการเร่งด่วน เพราะถ้าทำให้ราคาไข่เป็ด ไข่ไก่ ถูกลง เศรษฐกิจก็จะดีขึ้น ประชาชนก็จะมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น รัฐบาลก็จะได้รับผลดีไปด้วย
ข่าว/ภาพ : ประสิทธิ์ ตั้งประเสริฐ ผู้สื่อข่าวจังหวัดนครราชสีมา
