เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม นายหัสดิน สุวัฒนะพงศ์เชฎ อดีตเลขาธิการสภาอุตสาหกรรมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และประธานกิตติมศักดิ์สภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า จากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ที่ทำให้นายเศรษฐา ทวีสิน ต้องพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และรวมถึงคณะรัฐมนตรีต้องพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะนั้น ก็ส่งผลทำให้นักลงทุนทั้งในและต่างประเทศรู้สึกวิตกกังวลเป็นอย่างมาก สังเกตจากตลาดหุ้นไทยมีการตอบสนองทำให้หุ้นตกไปหลายจุด เนื่องจากว่านักลงทุนทั้งหลายรู้สึกไม่มั่นใจในเสถียรภาพของรัฐบาลไทย เพราะรัฐบาลชุดนี้ก็เพิ่งจะบริหารประเทศมาไม่ถึง 1 ปี และงบประมาณก็เพิ่งจะได้นำออกมาใช้แค่ 4 เดือน แต่ก็ต้องเจอกับอุบัติเหตุทางการเมือง จนทำให้นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีต้องพ้นจากตำแหน่งแล้ว
ทั้งนี้ แม้ว่าจะมีรักษาการนายกรัฐมนตรี แต่ก็ทำอะไรไม่ได้มาก โดยเฉพาะการอนุมัติงบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ ก็ต้องหยุดชะงักลง ดังนั้นตอนนี้นักลงทุนต้องรอให้มีการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ และคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ซึ่งก็ยังไม่รู้ว่าแต่ละคนจะมีวิสัยทัศน์อย่างไรบ้าง ตอนนี้ตนเองรู้สึกเป็นห่วงในเรื่องของเศรษฐกิจ โดยเฉพาะกำลังซื้อในประเทศลดลงมากอย่างมีนัยยะสำคัญ ถ้าภาครัฐไม่ได้มีการอัดฉีดงบประมาณเข้ามากระตุ้นเศรษฐกิจ ก็จะทำให้ฉุดรั้งให้จีดีพีของประเทศถดถอยลงต่อเนื่อง ดังนั้นจึงขอเรียกร้องให้ ส.ส.ในสภา เร่งประชุมเพื่อแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี และ ครม.ชุดใหม่ ให้ได้โดยเร็ว เพื่อให้การบริหารประเทศดำเนินการต่อไปได้ เพราะถ้ารัฐบาลยังขาดเสถียรภาพอยู่เช่นนี้ ก็จะยิ่งทำให้นักลงทุนที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศไทยขาดความเชื่อมั่นมากขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้นักลงทุนต่างชาติหันไปสนใจลงทุนในประเทศเพื่อนบ้าน เช่น เวียดนาม อินโดนีเซีย และมาเลเซีย เพราะรัฐบาลของประเทศเหล่านี้มีเสถียรภาพมากกว่าไทย ถ้าประเทศไทยยังคงเป็นเช่นนี้อยู่ก็ยากที่จะดึงดูดความสนใจให้กับนักลงทุนอยากเข้ามาลงทุนในไทย ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อเศรษฐกิจโดยรวมของไทยแน่นอน.
ข่าว/ภาพ : ประสิทธิ์ ตั้งประเสริฐ ผู้สื่อข่าวจังหวัดนครราชสีมา
