“เศรษฐา”จับเข่าคุยผู้บริหาร 8 สายการบินรับมือท่องเที่ยวบูม

เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย ดร.ปานปรีย์ พหิทธานุกร ​​ที่ปรึกษาคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทย นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ประธานคณะกรรมการนโยบายพรรคเพื่อไทย น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทยและคณะทำงานด้านนโยบายการท่องเที่ยวพรรคเพื่อไทย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ สส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย นายจักรพล แสงมณี คณะกรรมการด้านเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทย และนายทะเบียนพรรคเพื่อไทย นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่กรุงเทพมหานคร พรรคเพื่อไทย นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม คณะทำงานด้านการท่องเที่ยว พรรคเพื่อไทย นายศึกษิษฏ์ ศรีจอมขวัญ ​​กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ คณะกรรมการด้านเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทย ร่วมรับฟัง และหารือข้อเสนอแนะกับ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) และสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย รวมทั้งผู้ประกอบการสายการบินของไทย รวม 8 สายการบิน เกี่ยวกับสถานการณ์การขนส่งคมนาคมทางอากาศที่จะช่วยส่งเสริมและกระตุ้นการท่องเที่ยวไทยในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว หรือไฮซีซั่น ที่กำลังจะมาถึง

สำหรับ ปัญหาที่ผู้ประกอบการสะท้อนมายังนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย เช่น
1.การเพิ่มจำนวนเที่ยวบินให้ทันกับฤดูกาลท่องเที่ยว อย่างน้อย 20%
2.การเพิ่มศักยภาพเครื่องบินให้ทันกับการปรับเที่ยวบินที่จะเพิ่มขึ้น
3.การเพิ่มโอกาสผลักดันนักท่องเที่ยวในตลาดขนาดใหญ่ เช่น จีน อินเดีย ให้มากขึ้น
4.การเพิ่มจำนวนเครื่องบินให้มีความเหมาะสมกับการส่งเสริมการท่องเที่ยวของรัฐบาล

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอขอบคุณ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จํากัด (มหาชน) ที่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีในการช่วยกันส่งเสริมการทำงานกับรัฐบาลเพื่อไทยในการเตรียมตัวล่วงหน้า เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในช่วงไฮซีซั่น ซึ่งเป็นการส่งเสริมรายได้เข้าประเทศและกระตุ้นเศรษฐกิจได้ในระยะสั้น (Quick win) ทั้งในเรื่องของการบริหารจัดการภายในสนามบิน การเพิ่มเที่ยวบิน การเพิ่มหรือขยายรันเวย์ เป็นต้น

ทั้งนี้ ข้อเสนอของสายการบินต่างๆ ถือว่าเป็นความร่วมมือที่ดีในการร่วมกันส่งเสริมและสร้างรายได้เข้าประเทศ เป็นเรื่องดีที่ทุกสายการบินให้การตอบรับนโยบาย Free visa ในบางประเทศที่มีศักยภาพ เช่น จีน ซึ่งคาดว่าทุกสายการบิน มีความต้องการขยายจำนวนเที่ยวบินรับนักท่องเที่ยวตอบรับนโยบายแน่นอน ทั้งเที่ยวบินภายในประเทศและต่างประเทศ รัฐบาลที่นำโดยพรรคเพื่อไทย มีแผนที่จะไปโปรโมทการท่องเที่ยวไทยในต่างประเทศในปีหน้าในเที่ยวบินที่มีความพร้อม ซึ่งแต่ละสายการบินมีสัญญาณที่ดีว่าหากรัฐบาลสามารถเพิ่มความต้องการนักท่องเที่ยวไทยได้ สายการบินจะมีการแข่งขันกันโปรโมทการท่องเที่ยวร่วมกัน ซึ่งจะทำให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้าถึงตั๋วโดยสารได้ในราคาที่เหมาะสม

สำหรับ หน่วยงานและสายการบินที่มาร่วมหารือในวันนี้ ได้แก่

  1. ดร.กีรติ กิจมานะวัฒน์ ผู้อํานวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จํากัด (มหาชน)
  2. นายสุทธิพงษ์ คงพูล ผู้อํานวยการสํานักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย
  3. นายชาย เอี่ยมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท การบินไทย จํากัด (มหาชน)
  4. นายวรเนติ หล้าพระบาง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินไทยเวียตเจ็ท
  5. นายสันติสุข คล่องใช้ยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินไทยแอร์เอเชีย
  6. นายธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์
  7. นายชัยยง รัตนาไพศาลสุข รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ไทยสมายล์แอร์เวย์ จํากัด
  8. นายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อํานวยการใหญ่ บริษัท การบินกรุงเทพ จํากัด (มหาชน)
  9. นายอัศวิน ยังกีรติวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินไทยไลออนแอร์
  10. 10.นายวุฒิภูมิ จุฬางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท สายการบินนกแอร์ จํากัด (มหาชน)

อย่างไรก็ตาม ภายหลังการการปะชุมนายเศรษฐาได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า “จากการได้พูดคุยแลกเปลี่ยนกับบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (AOT) และสายการบิน ในส่วนของ AOT ก็ได้พูดคุยเรื่องแนวทางการลดคอขวดในฝั่งที่ประเทศไทยเราทำได้ เช่น ความสามารถในการรองรับผู้โดยสาร (Capacity) ของอาคารสนามบิน (Terminal), การตรวจคนเข้าเมือง, การรองรับเที่ยวบินของรันเวย์ (Runway Capacity) ซึ่งก็แสดงให้เห็นความมุ่งมั่นในการเตรียมความพร้อมรับการท่องเที่ยวที่จะเพิ่มขึ้นแน่นอน

ในส่วนของสายการบินเองก็พร้อมที่จะรับนโยบายที่จะอำนวยความสะดวกเรื่องวีซ่า Free Visa เพื่อสนับสนุนให้นักท่องเที่ยวที่จะเข้ามา ส่งสัญญาณในที่ประชุมร่วมกับ AOT ว่าจะสามารถเพิ่มจำนวนไฟลต์ได้อีก 20% เพื่อรับนักท่องเที่ยวทั้งภายในและระหว่างประเทศ

รัฐบาลที่นำโดยพรรคเพื่อไทย มีแผนที่จะโปรโมตการท่องเที่ยวต่างประเทศในปีหน้าด้วย พร้อมส่งเสริมผลักดันให้ไทยมีไฟลต์ที่พร้อมและเพียงพอจริง ๆ ซึ่งสายการบินก็ให้สัญญาณที่ดีว่าถ้ามีดีมานด์ สายการบินก็จะแข่งขันกันหาเครื่องบินและอื่น ๆ มาเพิ่มเติม

เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการท่องเที่ยวจะเป็นประตูสร้างรายได้ใหญ่ที่เร็วที่สุดให้ประเทศในช่วงไฮซีซันที่กำลังจะมาถึงครับ

Message us