เริ่มแล้วงานนมัสการ”องค์พระเจดีย์กลางน้ำ”สมุทรปราการ

นายศุภมิตร ชิณศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ เป็นประธานเปิดงานกาชาดและนมัสการองค์พระเจดีย์กลางน้ำ ประจำปี 2567 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 22 ต.ค.ถึงวันที่ 2 พ.ย.รวม 12 วัน 12 คืน ที่บริเวณลานหน้าศาลากลางจังหวัดสมุทรปราการ และหน้าองค์พระเจดีย์กลางน้ำ ฝั่งอำเภอพระสมุทรเจดีย์

ภายในงาน ได้มีการอัญเชิญผ้าแดงผืนใหญ่ที่ใช้ห่มองพระเจดีย์กลางน้ำขึ้นรถบุษบก ที่ประดับประดาไปด้วยดอกไม้นานาชนิด พร้อมริ้วขบวนแห่ไปรอบตลาดปากน้ำ ก่อนที่จะอัญเชิญผ้าแดงลงเรือตรวจการณ์ของตำรวจน้ำล่องแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อให้ชาวบ้านสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาได้ร่วมสักการบูชา โดยเรือจะล่องไปจนถึงหน้าที่ว่าการอำเภอพระประแดง ก่อนที่จะกลับมายังฝั่งอำเภอพระสมุทรเจดีย์ และอัญเชิญผ้าแดงขึ้นฝั่งไปประกอบพิธีการห่มผ้าแดงให้แก่องค์พระสมุทรเจดีย์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองทำสืบทอดกันหลายยุคหลายสมัย ก่อนที่งานสมโภชจะเริ่มขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ภายในงานจะมีการออกร้านกาชาดของเหล่ากาชาดจังหวัดสมุทรปราการ จำหน่ายสินค้าอุปโภค บริโภค การละเล่นพื้นบ้าน การแสดงมหรสพ ให้ประชาชนชมฟรีทุกคืน

พระสมุทรเจดีย์ หรือ “พระเจดีย์กลางน้ำ ” ถือเป็นปูชนียสถาน คู่บ้าน คู่เมือง และเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดสมุทรปราการ ตั้งอยู่ที่ ตำบลปากคลองบางปลากด อำเภอพระสมุทรเจดีย์ บริเวณฝั่งขวาของแม่น้ำเจ้าพระยา ตรงข้ามกับศาลากลางจังหวัด โดยมีแม่น้ำเจ้าพระยาคั่นกลาง และถือว่าเป็นโบราณสถานที่สำคัญของชาติ พระสมุทรเจดีย์ เริ่มก่อสร้างในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย (รัชกาลที่ 2 ) ภายหลังจากที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดสร้างเมืองสมุทรปราการและป้อมปราการต่าง ๆ โดยพื้นที่เดิมเป็นเกาะมีน้ำล้อมรอบ เรือสินค้าสามารถแล่นอ้อมรอบๆเกาะได้ จึงได้ชื่อว่า “พระสมุทรเจดีย์กลางน้ำ ” ปัจจุบันกระแสน้ำเปลี่ยนทิศทางและแผ่นดินได้ยื่นงอกออกมาจากการทับถมของตะกอน จนทำให้พื้นที่เกาะหมดไป คงเหลือเพียง “พระสมุทรเจดีย์” เท่านั้น

พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย โปรดเกล้าฯ ให้พระเจ้าลูกยาเธอกรมหมื่นเจษฎาบดินทร์ กับสมเด็จพระยาบรมมหาประยูรวงศ์ ครั้งยังเป็นพระยาพระคลัง เป็นแม่กองจัดการ ถมเกาะหาดทรายให้แน่นหนามั่นคง เสร็จแล้วโปรดเกล้าฯให้ กรมพระราชวังบวรมหาศักดิ์พลเสพย์ กับ พระยาราชสงคราม คิดแบบเจดีย์จนเป็นที่พอพระราชหฤทัย แล้วจึงโปรดเกล้าฯให้ พระเจ้า ลูกยาเธอกรมหมื่นเจษฎาบดินทร์กับเจ้าพระยาพระคลัง เป็นผู้อำนวยการสร้าง แต่พระองค์เสด็จสวรรคตเสียก่อน ต่อมาพระเจ้าลูกยาเธอกรมหมื่นเจษฎาบดินทร์ เสด็จขึ้นเถลิงถวัลยราชสมบัติ ทรงพระนามว่า พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯให้พระยาศรีธรรมราชและพระยาพระคลัง เป็นแม่กอง จัดสร้างพระเจดีย์ขึ้นกลางเกาะตามพระราชประสงค์ของพระราชบิดา แล้วเสร็จเมื่อ พ.ศ. 2371 พระราชทานนามว่า “พระสมุทรเจดีย์

พระสมุทรเจดีย์ เดิมสร้างเป็นแบบย่อเหลี่ยมไม้สิบสอง ต่อมาพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จฯ ทอดพระเนตรสภาพทั่วไปของพระสมุทรเจดีย์ ทรงมีพระราชประสงค์จะสถาปนาให้สูงขึ้นไปอีก เพื่อให้เรือของชาวต่างประเทศที่เข้ามาจะได้แลเห็นพระสมุทรเจดีย์ จึงโปรดเกล้าฯให้ช่างไปถ่ายแบบพระเจดีย์ลอมฟางที่กรุงศรีอยุธยา แล้วโปรดเกล้าฯให้กรมหมื่นราชสีหวิกรม เป็นนายช่างจัดการสร้างพระเจดีย์แบบลอมฟางครอบพระเจดีย์เดิม นอกจากนี้ ยังทรงสร้างศาลาเก๋งจีน หอเทียน หอระฆัง พระวิหาร และพระพุทธรูป ปางห้ามสมุทร พร้อมหลักผูกเรือริมน้ำรอบองค์พระสมุทรเจดีย์ และได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ 12 องค์ จากพระบรมมหาราชวัง แห่มาทางชลมารคบรรจุไว้ตามโบราณราชประเพณี ทรงมีพระมหากรุณาโปรดเกล้าฯให้มีการสมโภชเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ จนเป็นประเพณีสืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน”

จังหวัดสมุทรปราการ ได้จัดให้มีงานนมัสการพระสมุทรเจดีย์เป็นงานประจำปีที่สำคัญของจังหวัด โดยกำหนดเอาวันแรม 5 ค่ำ เดือน 11 ของทุกปีเป็นวันเริ่มงาน ก่อนเริ่มงานประมาณวันแรม 2 ค่ำ เดือน 11 จะมีพุทธศาสนิกชนทั้งชายและหญิง พร้อมใจกันเย็บผ้าแดงผืนใหญ่สำหรับห่มองค์พระสมุทรเจดีย์ พอถึง วันแรม 5 ค่ำ เดือน11 คณะกรรมการจัดงานจะอัญเชิญผ้าแดงตั้งบนบุษบก แห่ไปรอบๆ ตัวเมือง และอัญเชิญผ้าแดงลงเรือแห่ไปตามลำน้ำเจ้าพระยา จนถึงอำเภอพระประแดง เพื่อให้ชาวอำเภอพระประแดงร่วมอนุโมทนา

จากนั้น จึงแห่กลับมาทำพิธีทักษิณาวรรตรอบองค์พระสมุทรเจดีย์ ก่อนนำผ้าขึ้นห่มองค์พระสมุทรเจดีย์ ซึ่งเป็นประเพณีที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีหลังจากพิธีห่มผ้าองค์พระสมุทรเจดีย์ ในวันแรม 8 ค่ำเดือน 11 จะมีพิธีเวียนเทียนสักการะพระสมุทรเจดีย์ซึ่งได้ปฏิบัติสืบทอดต่อกันมาจนถึงปัจจุบัน เพื่อสักการะพระบรมสารีริกธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า 12 องค์ ซึ่งอยู่ภายในพระสมุทรเจดีย์ โดยพิธีเวียนเทียนดังกล่าวเป็นแห่งเดียวที่จัดขึ้นในวันแรม 8 ค่ำ

ข่าว/ภาพ : สมภพ สนเวส ผู้สื่อข่าวจังหวัดสมุทรปราการ

Message us