
จากกรณี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความลงในเฟสบุ๊กส่วนตัวเมื่อวันที่ 11 มิ.ย.โดยระบุว่า “ข่าวดีคอหวยมาแล้วครับ วันนี้ ครม. เห็นชอบร่างกฎกระทรวงการสมทบเงินรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาลตัวเลขสามหลัก โดยหลักการคือ ปัจจุบันสลากกินแบ่งที่เรารู้จักคือ สลากกินแบ่งรัฐบาล 6 หลัก (L6) เรากำลังจะมีสลากกินแบ่งรัฐบาลตัวเลข 3 หลัก (N3) เพิ่มอีกแบบหนึ่ง ซึ่งซื้อหนึ่งครั้ง เราจะเล่นได้ 4 เกมส์ (ลุ้นได้ 4 รางวัล) คือ 3 ตัวตรง, 2 ตัวตรง, 3 ตัวสลับหลัก และรางวัลพิเศษ โดยหวย N3 นี้ ถ้าไม่ถูกรางวัลในงวดนี้ สามารถสะสมเงินรางวัลไปอีกงวดหนึ่งได้ แต่ได้แค่งวดเดียวเท่านั้น (ถ้าอีกงวดหนึ่งยังไม่มีคนถูกรางวัลพิเศษอีก ก็นำเงินส่งเข้ารัฐเป็นรายได้แผ่นดิน) ซึ่งรายละเอียดขอให้ติดตามการแถลงข่าวของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลต่อไปครับ”
เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปตลาดเรดซิตี้ เขตเทศบาลเมืองกาญจนบุรี เพื่อสอบถามความคิดเห็น นางปณัญชยา สุขพูล หรือ เจ๊เกียว รวมทั้ง น.ส.รัตนาพร สุภาทิพย์ หรือ เจ๊บ้าบิ่น และ น.ส.พัชริดา พรมตา หรือ เจ๊พัช แม่ค้าขายสลากกินแบ่งรัฐบาลชื่อดังที่เป็นพยานคนสำคัญในคดีหวย 30 ล้านอลเวงระหว่าง นายปรีชา ใคร่ครวญ หรือ ครูปรีชา กับ ร.ต.ท.จรูญ วิมูล หรือหมวดจรูญ ที่เคยเป็นข่าวโด่งดังไปทั่วประเทศ คนไทยต่างก็รู้จักเป็นอย่างดี เมื่อไปถึงพบ เจ๊เกียว กับเจ๊บ้าบิ่น กำลังนั่งขายล็อตเตอรี่ อยู่ที่แผงข้างศาลพระพรหม ที่อยู่ติดกับฝั่งถนนพัฒนาการ ส่วนในวันนี้เจ๊พัช ไม่ได้เดินทางมาตั้งแผงขายลอตเตอรี่ ด้วย

นางปณัญชยา สุขผล หรือ เจ๊เกียว กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลมีนโยบายออกสลากกินแบ่งรัฐบาลตัวเลข 3 หลัก (N3) ว่า นโยบาลดังกล่าวส่งผลกระทบกับผู้ค้าสลากฯ อย่างมาก เหมือนรัฐบาลกำลังมาแย่งงานประชาชน ตอนนี้ประชาชนอยู่กันอย่างลำบาก ทำมาหากินยากมากขึ้น การขายลอตเตอรี่ในช่วง 3-4 เดือนที่ผ่านมา เหลือทุกงวด สาเหตุเกิดจากปัญหาเศรษฐกิจเป็นประเด็นหลัก
ทั้งนี้ อยากถามว่าที่ผ่านมารัฐบาลได้แก้ไขปัญหาอะไรให้ประชาชนแล้วหรือยัง เท่าที่มองดูผลงานก็ยังไม่เห็น เราเข้าใจว่าเพิ่งจะเปลี่ยนรัฐบาล แต่งานบางประเภทเป็นงานของประชาชน รัฐบาลไม่ควรจะแย่งเอาไปทำ การที่พวกเรานั่งขายลอตเตอรี่กันอยู่ทุกวันนี้ก็ลำบากอยู่แล้ว แต่รัฐบาลกลับมาคิดเพิ่มวิธีการขายลอตเตอรี่ขึ้นมาอีก ทุกวันนี้เงินค่ากินอยู่ก็ไม่พออยู่แล้ว ในส่วนของคนที่มีเงินเดือนประจำก็จะหันไปซื้อสลากออนไลน์ในราคาใบละ 80 บาท ซึ่งต้นทุนลอตเตอรี่ที่พวกเราไปซื้อมาไม่ใช่ราคา 80 บาท แต่ต้นทุนมากกว่านั้น ทำให้เราขายให้ลูกค้าใบละ 80 บาทไม่ได้

เจ๊เกียว บอกว่า ปัจจุบันค่าครองชีพก็สูงขึ้น สวนทางกับรายได้ ยอมรับว่า ทุกวันนี้ต้องหาเงินเอาไว้เป็นค่าครองชีพไปวันๆ การที่จะไปซื้อของกินของใช้ดีๆ เหมือนสมัยก่อน ไม่สามารถทำได้แล้ว สุดท้ายขอฝากไปถึงรัฐบาลว่า ตนเป็นเพียงแม่ค้าขายลอตเตอรี่ธรรมดา จากกระแสที่ชาวบ้านมาซื้อลอตเตอรี่ ที่แผงต่างก็บ่นเป็นเสียงเดียวกันว่า ทุกวันนี้สินค้าทุกชนิดแพงขึ้นทุกวัน ตอนที่ท่านยังไม่ได้เป็นรัฐบาลท่านหาเสียงเอาไว้ว่าราคาสินค้าทุกอย่างจะลดทันที โดยเฉพาะด้านพลังงาน สุดท้ายก็ทำไม่ได้
ด้าน นางรัตนาพร สุภาทิพย์ หรือ เจ๊บ้าบิ่น บอกด้วยความอัดอั้นว่า การทำมาหากินทุกวันนี้ก็ลำบากกันอยู่แล้ว สลากที่สั่งมาขายก็เหลือเป็นจำนวนมากทุกงวด เพราะประชาชนไม่มีกำลังซื้อเหมือนในอดีต เป็นแบบนี้มาเกือบครึ่งปีแล้ว ส่วนคนที่ทำธุรกิจก็ได้รับผลกระทบกันทั่วหน้าทุกอาชีพกำลังจะตายสนิท รอแค่วันเอาไปเผา หรือฝังเท่านั้น

เจ๊บ้าบิ่น บอกว่า แต่วันนี้รัฐบาลยังมาคิดที่จะแย่งงานประชาชนไปทำอีก วันๆ คิดแต่จะมอมเมาประชาชน ทำไมจึงไม่หางานมาให้ประชาชนคนไทยได้ทำ เวลานี้ประชาชนอยู่กันยากมาก ในสมัย นายกประยุทธ์ จันทร์โอชา ราคาไข่ก็ถือว่าแพงแล้ว แต่ในยุคของ นายเศรษฐา ไข่กลับแพงกว่าอีก ถามหน่อยว่ามันเกิดอะไรขึ้น ขอฝากไปถึง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ว่า เวลานี้คนไทยกำลังจะตายหมดแล้วเศรษฐกิจไม่มีการพัฒนาอะไรเลย แต่กลับมามัวคิดแต่เรื่องพัฒนาการขายหวย คิดจะเอาแต่เอาสิ่งมอมเมามาแจกประชาชน ทำไมไม่หาทางให้ประชาชนมีอาชีพทำ
“ทุกวันนี้ประชาชนทุกคนต่างเป็นหนี้เป็นสินกันมากมาย หันไปทางไหนก็มีแต่คนเป็นหนี้ รัฐบาลเคยบอกหากได้เข้ามาบริหารประเทศจะลดค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า ค่าน้ำมัน ทันที แต่จนถึงวันนี้ยังไม่เห็นลดตามที่หาเสียงเอาไว้กับประชาชนได้เลย มีแต่ขึ้นตลอด ขนาดเติมน้ำมันรถจักรยานยนต์ 100 บาท ก็ได้ไม่กี่ลิตร เสื้อผ้าที่จะไปซื้อใหม่เงินก็ไม่พอต้องไปซื้อเสื้อผ้ามือสองแทน บางครั้งต้องไปหาเสื้อผ้าเก่าๆ ที่มีอยู่นำกลับมาซักเพื่อใช้ใหม่”เจ๊บ้าบิ่นกล่าว

อย่างไรก็ตาม การที่รัฐบาลมีนโยบายจะออกหวยออนไลน์เพิ่มมานั้น ยอมรับว่า หากเกิดขึ้นจริงจะส่งผลกระทบกับผู้ค้าสลากทั่วประเทศอย่างแน่นอน เศรษฐกิจก็ไม่ดี สิ่งของต่างๆ ก็ราคาแพง แพงไปทุกอย่าง จากที่เคยซื้อเนื้อหมู หรือสเต็กมากิน ปัจจุบันไม่มีเงินไปซื้อแล้ว ต้องหันไปเก็บผักมากินกับน้ำพริกกันแล้ว
“ฝากไปถึง นายกเศรษฐา ว่าหากไม่ไหว ก็ออกไป หาคนอื่นมาแทน ไม่ต้องมองที่ใคร มองหน้า “เจ๊เกียว” คนเดียวก็พอ เมื่อก่อนเคยซื้อเครื่องสำอางราคาแพงๆ มาแต่งหน้าทาปากจนปากแดงแก้มแดง แต่มาวันนี้หน้าเขียวไปหมดแล้ว” เจ๊บ้าบิ่น กล่าว
ข่าว/ภาพ : ปิยรัชต์ จงเจริญ ผู้สื่อข่าวจังหวัดกาญจนบุรี