
นายสมพงษ์ สาระวัลย์ อายุ 47 ปี ชาวบ้านตำบลจระเข้หิน อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ได้ใช้เวลาว่างเดินเก็บเม็ดมะม่วงหิมพานต์ที่อยู่ริมสวน มารวบรวมเอาไว้ รอคั่วรับประทานภายในครอบครัว และไว้ต้อนรับแขกเหรื่อที่จะแวะเวียนมาเยี่ยมเยียน
นายสมพงษ์ บอกว่า ก่อนหน้านี้ มะม่วงหิมพานต์จะพบได้ทั่วไปตามหัวไร่ปลายนาแทบทุกที่ แต่ตอนนี้กลับหาได้น้อยลงเพราะไม่มีตลาดรับซื้อขายเหมือนพืชเกษตรทั่วไป เมื่อประมาณกว่า 10 ปีที่แล้ว ในพื้นที่ อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา จะพบมะม่วงหิมพานต์ได้ทั่วไป เพราะเคยเป็นที่นิยมปลูกเพื่อจำหน่ายอยู่ช่วงหนึ่ง แต่ไม่แน่ใจว่าเพราะอะไร ช่วงหลังๆ เหมือนไม่มีใครมารับซื้อ จึงทำให้ชาวบ้านเลิกปลูกและตัดทิ้งเพื่อปลูกพืชชนิดอื่นแทน ทำให้ตอนนี้ในพื้นที่หามะม่วงหิมพานต์ได้ค่อนข้างยากแล้ว

แต่ตนยังเห็นว่า มะม่วงหิมพานต์มีประโยชน์อยู่บ้าง เพราะเป็นพืชที่โตไว ดูแลง่าย ให้ความร่มรื่นเป็นอย่างดี จึงปลูกเอาไว้ประดับภายในสวน เพื่อเป็นพี่เลี้ยงให้ร่มเงาแก่ไม้ชนิดอื่นๆ จะได้เก็บเอาเม็ดไว้คั่วทานเล่น หรือไว้รับรองแขกที่แวะมาเยี่ยมเยียน เพราะเม็ดมะม่วงหิมพานต์เมื่อคั่วสุกแล้ว จะมีรสชาติหอมมัน เป็นที่นิยมรับประทาน หากซื้อในตลาดทั่วไปจะมีราคาที่สูงมาก โดยแต่ละปีช่วงเดือนกลางเดือนมีนาคม เป็นต้นไป มะม่วงหิมพานต์จะติดลูก ออกผล และร่วงหล่นให้ได้เก็บเกี่ยวในเดือนเมษายน ตนก็จะอาศัยเวลาว่าง เก็บรวบรวมเมล็ดมาเก็บไว้เพื่อไว้คั่วรับประทาน สามารถเก็บไว้ได้นานเป็นปีๆ เพียงแค่ไม่ให้มีความชื้น จนทำให้เมล็ดแตกหน่อเท่านั้น

วิธีการคั่วเม็ดมะม่วงหิมพานต์ จะใช้วิธีการคั่วแบบบ้านๆ ตามภูมิปัญญาที่สืบทอดต่อๆ กันมา คือนำมาใส่หม้อคั่ว จนน้ำมันเมล็ดออก แล้วจุดไฟภายในหม้อจนไฟลุกท่วมเพื่อให้เมล็ดสุกทั่วกัน ขั้นตอนนี้ ต้องอาศัยความชำนาญเป็นพิเศษ เพหากปล่อยให้ไหม้นานเกินไป ก็จะทำให้เมล็ดด้านในไหม้ขม อีกทั้งยังค่อนข้างอันตราย จากนั้น ก็จะนำมาทุบแกะเอาเม็ดในออก นำมารับประทานได้ แม้ว่าแต่ละขั้นตอนจะใช้ระยะเวลาสักหน่อย แต่ก็ถือเป็นการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ และยังได้กินของดี ราคาแพง โดยไม่ต้องเสียเงินซื้อ
สำหรับมะม่วงหิมพานต์ เป็นไม้ไม่ผลัดใบ ลำต้นมีความสูง 10-12 เมตร ต้นเตี้ย สยายกิ่งก้านไม่สม่ำเสมอ ใบจัดเรียงเป็นแบบเกลียว ผิวมันลื่น รูปโค้งจนถึงรูปไข่ ขอบใบเรียบ ยอดอ่อนชาวภาคใต้ของไทยนิยมนำไปรับประทานกับส้มตำ ผลแท้ของมะม่วงหิมพานต์ จะเป็นผลเมล็ดเดียว รูปไต หรือรูปนวมนักมวย งอกออกจากปลายของผลเทียมที่มีลักษณะคล้ายลูกชมพู่ เมื่อสุกเต็มที่จะมีสีแดงและเหลือง ผลแท้จะนิยมนำมาผ่าเอาเมล็ดด้านในมาอบหรือคั่วรับประทาน

มะม่วงหิมพานต์ เป็นพืชที่มีคุณค่าทางสารอาหารสูง ประกอบด้วย โปรตีนที่ย่อยง่าย ไขมันที่ส่วนใหญ่เป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัว เมื่อบริโภคเข้าไปจะไม่เพิ่มไขมันในเส้นเลือด และมีคาร์โบไฮเดรต วิตามินเอ บี อี และเกลือแร่ มีแคลเซียม ฟอสฟอรัส และเหล็ก สรรพคุณมากมาย ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด ช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็ง บำรุงสุขภาพเหงือก-สุขภาพฟันและกระดูกให้แข็งแรง ป้องกันการเกิดโรคกระดูกพรุนในผู้สูงอายุได้
นอกจากนี้ การรับประทานเม็ดมะม่วงหิมพานต์เป็นประจำ จะช่วยป้องกันโรคจอประสาทตาเสื่อมได้ ผลการวิจัยในบราซิลและอินเดีย พบว่า สารสกัดจากเปลือกต้นและสารสกัดจากส่วนเหนือดินของต้น สามารถช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ เมล็ดมีกรดไลโนเลอิก (Linoleic acid) ช่วยป้องกันโรคไขมันอุดตันในเส้นเลือด ป้องกันโรคหัวใจและโรคเกี่ยวกับทรวงอกได้ ส่วนแมกนีเซียมจากเม็ดมะม่วงหิมพานต์ สามารถช่วยลดความดันโลหิตได้ด้วย
ข่าว/ภาพ : ประสิทธิ์ ตั้งประเสริฐ ผู้สื่อข่าวจังหวัดนครราชสีมา
