เมื่อวันที่ 10 มกราคม ที่ท่าอากาศยานเชียงใหม่ นายวิจิตต์ แก้วไทรเทียม ผอ.ท่าอากาศยานเชียงใหม่ พร้อมด้วยผู้บริหาร และผู้แทนส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ทั้งด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ ด่านตรวจคนเข้าเมือง และด่านศุลกากร ร่วมสังเกตการณ์จากผู้โดยสารที่เดินทางมาจากไทเป เพื่อกำหนดกระบวนการให้บริการผู้โดยสารให้เกิดความสะดวก รวดเร็วที่สุด เตรียมพร้อมรองรับจำนวนเที่ยวบินระหว่างประเทศที่จะเพิ่มขึ้นหลังจากจีนเปิดประเทศและมีหลายเที่ยวบินเตรียมเปิดเส้นทางตรงเข้ามา
นายวิจิตต์ กล่าวว่า กล่าวว่า ปัจจุบันท่ากาศยานเชียงใหม่มีเส้นทางบินตรงระหว่างประเทศ 11 เส้นทาง ได้แก่ อินชอน ปูซาน สิงคโปร์ ไทเป หลวงพระบาง ดานัง ฮานอย ฮ่องกง โฮจิมินห์ กัวลาลัมเปอร์ และย่างกุ้ง ให้บริการโดย 12 สายการบิน ส่วนเส้นทางบินจากจีนแผ่นดินใหญ่จะเริ่มทำการบินเข้ามาในวันที่ 18 มกราคมนี้ โดยสายการบินจุนเหยา จะทำการบินเส้นทาง เซี่ยงไฮ้-เชียงใหม่ และในวันที่ 20 มกราคม เป็นเที่ยวบินจากสายการบินสปริงแอร์ จะทำการบินเส้นทาง กวางโจว-เชียงใหม่
นอกจากนี้ ยังมีสายการบินที่อยู่ระหว่างดำเนินการขอใบอนุญาตทำการบินเข้ามาอีก 4 สายการบิน ได้แก่ สายการบินแอร์ไชน่า เส้นทาง ปักกิ่ง-เชียงใหม่ สายการบินเสฉวน เส้นทาง เฉินตู-เชียงใหม่ สายการบินไชน่าอีสเทิน เส้นทาง เซี่ยงไฮ้-เชียงใหม่ และสายการบิน สายการบินสปริงแอร์ เส้นทาง เซี่ยงไฮ้-เชียงใหม่
ทั้งนี้ ในปี 2562 ก่อนที่จะเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ท่าอากาศยานเชียงใหม่มีเส้นทางบินตรงไปยังเมืองต่างๆ ของประเทศจีนทั้งสิ้น 19 เส้นทาง มีผู้โดยสารชาวจีนเฉลี่ยวันละ 4,000-5,000 คน และมีจำนวนผู้โดยสารชาวจีน ผ่านเข้าออกช่องทางสนามบินเชียงใหม่ในปี 2562 กว่า 1.78 ล้านคน
สำหรับ การตรวจคัดกรองผู้โดยสารชาวต่างชาติ ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ ท่าอากาศยานเชียงใหม่ พร้อมที่จะดำเนินการตามมาตรการของรัฐบาล โดยจะคำนึงถึงความปลอดภัยและสุขอนามัยของผู้โดยสารและผู้ปฏิบัติงาน ควบคู่ไปกับความสะดวกรวดเร็วในการให้บริการเต็มที่ตามมาตรฐานสากล ซึ่งภาพรวมเป็นไปด้วยดีและไม่น่ากังวลเนื่องจากยังมีปริมาณไม่มาก
ข่าว/ภาพ : ภานุเมศ ตันรักษา
