
จากกรณีศาลชั้นต้นจังหวัดกาญจนบุรีนัดฟังคำพิพากษา คดีหมายเลขดำที่ อ.2185/2561 คดีหมายเลขแดงที่ อ.3355/2561 กรณี ร.ต.ท.จรูญ วิมูล หรือหมวดจรูญ เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายปรีชา ใคร่ครวญ หรือ ครูปรีชา นางรัตนาพร สุภาทิพย์ หรือ เจ๊บ้าบิ่น และนางพัชริดา พรมตา หรือ เจ๊พัช ในข้อหาความผิดฐาน “ร่วมกันเบิกความเท็จ”เนื่องจากจำเลยทั้ง 3 คน เคยเบิกความในชั้นไต่สวนฉุกเฉินในคดีแพ่งขออายัดเงินรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาลรางวัลที่ 1 งวดประจำวันที่ 1 พ.ย.60 หมายเลข 533726
คดีดังกล่าว ร.ต.ท.จรูญ วิมูล หรือ หมวดจรูญ อดีตข้าราชการตำรวจ สภ.บ่อพลอย อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี เป็นผู้นำสลาก จำนวน 1 ชุด 5 ใบ เป็นเงินจำนวน 30 ล้านบาทไปขึ้นเงินรางวัลที่กองสลากกินแบ่งรัฐบาล ก่อนหน้านี้ครูปรีชา รวมทั้งเจ๊บ้าบิ่น และเจ๊พัช ได้ยอมรับสารภาพต่อศาลมาแล้วว่า เบิกความเท็จจริง ศาลจึงนัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 28 ต.ค.2567

ทั้งนี้ ในวันดังกล่าว นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ พร้อมด้วย ร.ต.ท.จรูญ วิมูล หรือหมวดจรูญ และ นางลาวัลย์ วิมูล ภรรยาหมวดจรูญ ได้เดินทางมาฟังคำพิพากษาตามที่ศาลได้นัดเอาไว้ ส่วน นายปรีชา ใคร่ครวญ หรือ ครูปรีชา จำเลย ไม่ได้เดินทางมาฟังคำพิพากษา แต่ได้มอบหมายให้ทนายความเดินทางมายื่นคำร้องขอเลื่อนฟังคำพิพากษาออกไป
ศาลมีเมตตาต่อครูปรีชา จึงให้เลื่อนไปฟังคำพิพากษาอีกครั้งหนึ่งในวันที่ 12 ธันวาคม 2567 เวลา 09.00 น. ส่วนนางรัตนาพร สุภาทิพย์ หรือ เจ๊บ้าบิ่น และ นางพัชริดา พรมตา หรือ เจ๊พัช ได้เดินทางมาฟังคำพิพากษาตามที่ศาลนัดเอาไว้ด้วยเช่นกัน แต่จำเลยทั้ง 2 ได้ยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอกลับคำให้การจากที่เคยยอมรับสารภาพไปแล้ว กลับมาเป็นขอปฏิเสธเพื่อขอสู้คดี แต่ศาลพิจารณาแล้วไม่อนุญาตจึงยกคำร้อง ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดเมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ ( 12 ธ.ค.) นายปรีชา ใคร่ครวญ หรือครูปรีชา นางรัตนาพร สุภาทิพย์ หรือ เจ๊บ้าบิ่น และนางพัชริดา พรมตา หรือเจ๊พัช จำเลยได้เดินทางมาฟังคำพิพากษาตามที่ศาลนัดเอาไว้ ส่วน ร.ต.ท.จรูญ วิมูล หรือ หมวดจรูญ (โจทก์) เดินทางมาด้วย แต่ไม่ได้เข้าไปรับฟังคำพิพากษา โดยมอบหมายให้ทนายความ เป็นผู้เข้าไปฟังคำพิพากษาแทน ศาลใช้เวลาอ่านคำพิพากษา ประมาณ 1 ชั่วโมงจึงแล้วเสร็จ
นายสุชพงศ์ บุญเสริม ในฐานะทนายความของนางรัตนาพร สุภาทิพย์ หรือ เจ๊บ้าบิ่น (จำเลยที่ 2) และนางพัชริดา พรมตา หรือเจ๊พัช (จำเลยที่ 3)ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้จำเลยทั้ง 3 ได้เดินทางมาฟังคำพิพากษาของศาลชั้นต้นตามที่ศาลได้นัดเอาไว้ ส่วนโจทก์คือหมวดจรูญ มาแต่ไม่ได้เข้าไปฟัง โดยได้มอบหมายให้ทนายความเป็นผู้เข้าไปฟังคำพิพากษาแทน

ศาลมีคำพิพากษาว่า จำเลยทั้ง 3 คนมีความผิดตามคำฟ้องจริง จึงพิพากษาจำคุกคนละ 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา จำเลยทั้ง 3 ยอมรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งเหลือ จำคุก 1 ปี โดยไม่รอลงอาญา จำเลยทั้ง 3 ยังมีสิทธิ์ที่จะยื่นอุทธรณ์ ไปยังศาลอุทธรณ์ ส่วนจะให้ประกันตัวหรือไม่อยู่ที่การพิจารณาของศาล
ด้าน ร.ต.ท.จรูญ วิมูล หรือหมวดจรูญ กล่าวว่า การที่ตนไม่เข้าไปฟังคำพิพากษาภายในห้องบัลลังก์พิจารณาคดีเพราะไม่อยากเจอหน้ากับครูปรีชารวมทั้งเจ๊บ้านบิ่น และเจ๊พัช แต่ก็ได้มอบหมายให้ทนายความเข้าไปรับฟังแทน คำพิพากษาที่ออกมาก็รู้สึกพอใจ ส่วนคดีที่เหลืออยู่ตนพร้อมที่จะต่อสู้อย่างเต็มที่ถึงแม้ทนายตั้ม จะไม่ได้มาก็ตามแต่ก็ยังมีทีมงานทนายความมาดูแลคดีให้อยู่
ข่าว/ภาพ : ปรีชา ไหลวารินทร์ ผู้สื่อข่าวจังหวัดกาญจนบุรี