รัฐบาลเอาจริงเปิดปฏิบัติการ”SEAL STOP SAFE”ลุยปราบยาเสพติดผนึกทุกหน่วยงานปราบหนัก

เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 30 มกราคม น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ในพิธีเปิดปฏิบัติการสกัดกั้น และปราบปรามยาเสพติด “SEAL STOP SAFE” ผนึกกำลัง 51 อำเภอชายแดน โดยมี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผบ.ทบ. และรองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และ พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล

นายภูมิธรรม ได้กล่าวรายงานถึงวัตถุประสงค์ของการจัดพิธีฯ ซึ่งเป็นไปตามที่รัฐบาลกำหนดให้ปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการ เนื่องจากสถานการณ์การลักลอบนำเข้ายาเสพติดตามแนวชายแดน ส่งผลให้เกิดการแพร่ระบาดในประเทศเป็นอย่างมาก คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด จึงได้กำหนดพื้นที่เร่งด่วนในการสกัดกั้นยาเสพติดใน 14 จังหวัด รวม 51 อำเภอชายแดน

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดในพิธีฯ เน้นย้ำรัฐบาลจะแก้ไขปัญหายาเสพติด อย่างเด็ดขาด และครบวงจร เริ่มตั้งแต่การตัดต้นตอการผลิตและจำหน่ายด้วยการร่วมมือกันกับประเทศเพื่อนบ้าน การสกัดกั้นควบคุมการลักลอบนำเข้า และตัดเส้นทางการลำเลียงยาเสพติด การปราบปรามและการยึดทรัพย์ผู้ค้าอย่างเด็ดขาด การค้นหาผู้เสพในชุมชนเพื่อเข้าสู่กระบวนการรักษา ตลอดจนการบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติด สิ่งที่รัฐบาลต้องการคือ ให้ทุกหน่วยงานได้ร่วมกันปฏิบัติในการสกัดกั้นหรือการปิดกั้นชายแดน ไม่ให้ยาเสพติดหลุดรอดเข้ามาในประเทศ ในห้วงระยะเวลา 6 เดือน (กุมภาพันธ์ – กรกฎาคม) และต้องการเห็นผลงานที่เป็นรูปธรรมในพื้นที่ชายแดน ดังนี้

1.ต้องไม่ให้มีการลักลอบนำเข้ายาเสพติดตามช่องทาง ด่านตรวจ/จุดตรวจ ท่าเทียบเรือ บริเวณชายแดน ทั้งที่ถูกกฎหมายและช่องทางธรรมชาติ เส้นทางคมนาคม ระบบ Logistic การขนส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์

2.ไม่ปล่อยให้มีการแพร่ระบาดของยาเสพติดอย่างรุนแรงในพื้นที่อำเภอชายแดนที่รับผิดชอบ

3.ประชาชนในพื้นที่ไม่ได้รับความเดือดร้อนและเกิดปัญหาอาชญากรรมอื่น จากยาเสพติด

4.ไม่พบการร้องเรียนจากปัญหาเจ้าหน้าที่ของรัฐ ผู้ค้า ผู้เสพ ผู้ติดยาเสพติดที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข

5.มีการให้ความช่วยเหลือผู้เสพที่มีอาการทางจิตเวชจากยาเสพติด และไม่ก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่

หลักจากพิธีเปิด ผบ.ทบ. และรองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และปลัดกระทรวงมหาดไทย ยังได้กล่าวมอบนโยบายการดำเนินงาน ตามบทบาทและภารกิจของแต่ละหน่วยงาน เพื่อให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในปฏิบัติการได้เข้าใจในบทบาทภารกิจมากขึ้น

นอกจากนี้ พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. ยังได้กล่าวถึงสถานการณ์ มาตรการ และตัวชี้วัดประสิทธิภาพการแก้ไขปัญหายาเสพติดตามแนวชายแดน ความเป็นมา รวมถึงตัวชี้วัดหลัก 4 ตัวชี้วัด ได้แก่

1.ร้อยละของผลการสกัดกั้นยาเสพติดในจังหวัดชายแดนที่นำเข้าผ่านอำเภอชายแดนเปรียบเทียบกับผลการจับกุมยาเสพติดทั้งประเทศ ที่นำเข้าผ่านอำเภอชายแดนเป้าหมาย ร้อยละ 90

2.ผลการปราบปรามจับกุมผู้ค้าและเครือข่ายการลักลอบลำเลียงและค้ายาเสพติดตามเป้าหมาย ร้อยละ 90

3.ผลการดำเนินการต่อเจ้าหน้าที่ของรัฐที่กระทำความผิดหรือเข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ร้อยละ 100

4.ผลการตั้งกำลังประชาชนของหมู่บ้านตามแนวชายแดนในการป้องกัน เฝ้าระวังยาเสพติดในพื้นที่อำเภอเป้าหมาย ร้อยละ 90

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาดหม กล่าวเน้นย้ำภารกิจนี้ ถือว่าเป็นเดิมพันที่มีความท้าทายอย่างมาก ที่จะทำให้ประเทศไทยปลอดภัยจากยาเสพติด ขอให้ผู้ปฏิบัติงานทุกฝ่าย ยึดหลักกฎหมาย นิติรัฐและนิติธรรมเป็นหลักในการทำงาน และจะมีการกำหนดตัวชี้วัดการดำเนินงานอย่างชัดเจน โดยสำนักงาน ป.ป.ส. ร่วมกับกองทัพ ในการประเมินผลภายใน และให้สถาบันวิชาการในพื้นที่ประเมินผลในภาพรวมแต่ละอำเภอ สถานการณ์ยาเสพติดจะต้องลดลง ความเชื่อมั่นและความพึงพอใจของประชาชนที่มีต่อการทางานภาครัฐเพิ่มขึ้น และความปลอดภัยในชีวิตของประชาชนสูงขึ้น และนำความมั่นคงและความผาสุกกลับคืนสู่ประชาชน

Message us