มอเตอร์โชว์ครั้งที่ 44 เริ่มแล้วค่ายรถจัดหนักมากกว่า 40 แบรนด์

เมื่อวันที่ 21 มีนาคม บริษัทกรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) จัดงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 44 ชูแนวคิด “COLORFUL EXPERIENCE ประสบการณ์ครบทุกสีสัน” ตอกย้ำความยิ่งใหญ่ความเป็นผู้นำด้านงานจัดแสดงรถยนต์ ค่ายรถยนต์-รถจักรยานยนต์มากกว่า 40 แบรนด์ ยังมั่นใจตอบรับเข้าร่วมงานพร้อมนำยนตรกรรมจากเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดเข้าร่วมจัดแสดงเต็มพื้นที่ โดยการจัดงานจะเกิดขึ้น ระหว่างวันที่ 22 มีนาคม-2 เมษายน 2566 ที่ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี

นายปราจิน เอี่ยมลำเนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ในฐานะประธานจัดงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 44 เปิดเผยว่า งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 44 (The 44th Bangkok International Motor Show 2023) จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “COLORFUL EXPERIENCE ประสบการณ์ครบทุกสีสัน” เพื่อสื่อถึงการสร้างประสบการณ์อันหลากหลาย ผ่านเทคโนโลยีแห่งโลกยานยนต์ที่ยังคงพัฒนาอย่างไม่มีวันสิ้นสุด โดยเฉพาะกับรถพลังงานไฟฟ้าที่กำลังจะนำพาวิถีชีวิตแห่งการเดินทางในยุคใหม่มาสู่ทุกคน

งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ยังคงเป็นงานจัดแสดงยานยนต์ที่บริษัทผู้ผลิต ผู้จำหน่ายรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และผู้ผลิตชิ้นส่วนในอุตสาหกรรมยานยนต์ นำผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีต่าง ๆ เข้าร่วมจัดแสดงมาอย่างยาวนาน โดยในการจัดงานประจำปี 2566 ค่ายรถยนต์-รถจักรยานยนต์ชั้นนำแสดงความจำนงค์เข้าร่วมงานมากกว่า 40 แบรนด์ เต็มพื้นที่การจัดงานกว่า 170,960 ตารางเมตร แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นและความสำคัญของงานงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแล มอเตอร์โชว์ ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังตอกย้ำภาพลักษณ์ความเป็นผู้นำในการจัดงาน Exhibition ด้านยานยนต์ชั้นนำของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งผู้บริโภคให้ความไว้วางใจมายาวนานมากกว่า 44 ปี

สำหรับทิศทางของอุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศไทยในปี 2566 ในภาพรวมของอุตสาหกรรมเริ่มกลับเข้าสู่สภาวะปกติ สถานการณ์การขาดแคลนชิ้นส่วนในการผลิตมีสถานการณ์ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งในปีนี้หน่วยงานภาครัฐประ เมินว่า การผลิตรถยนต์และรถจักรยานยนต์ของประเทศไทย จะกลับมาเพิ่มสูงขึ้นหากเทียบกับปีที่ผ่านมา ด้านสภาวะเศรษฐกิจก็มีแนวโน้มจะกลับมาเติบโตได้เป็นอย่างดี เชื่อว่าจะส่งผลให้ตลาดรถยนต์กลับมาคึกคักอีกครั้ง

โดยเฉพาะกับตลาดรถพลังงานไฟฟ้าที่คาดว่าจะมีตัวเลขการเติบโตมากกว่าปีที่ผ่านมา เนื่องจากผู้บริโภคเริ่มมีความรู้ความเข้าใจมากขึ้นกับเทคโนโลยีแห่งการขับเคลื่อนวิถีใหม่ที่จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการขับขี่และการเดินทางประกอบกับการสนับสนุนจากภาครัฐในหลายด้าน ทั้งการส่งเสริมมาตราการทางด้านภาษี ส่งผลให้มีราคาจำหน่ายที่ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงได้ง่ายมากยิ่งขึ้น ไปจนถึงการสนับสนุนในส่วนของการผลิตเพื่อใช้งานภายในประเทศ และการผลิตเพื่อส่งออกสู่ทั่วโลกในอนาคต จึงเป็นอีกครั้งที่งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ด้วยการนำเสนอรถยนต์ไฟฟ้า และรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าหลากหลายรุ่นภานในงานครั้งนี้

ทั้งนี้ งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 44 ยังคงได้รับความร่วมมือจาก กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, สมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย, สมาคมวิศวะกรรมยานยนต์ไทย, สมาคมผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไทย, สมาคมระบบขนส่งการจราจรอัจฉริยะ, และ ราชยานยนต์สมาคมแห่งประเทศไทยในพระ บรมราชูปถัมภ์ (ร.ย.ส.ท.) และบริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น เมเนจเม้นท์ จำกัด เป็นอย่างดีในการจัดงาน

นายจาตุรนต์ โกมลมิศร์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการด้านการตลาดและการขาย บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) และรองประธานจัดงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 44 กล่าวว่า แม้ทิศทางและกระแสของการซื้อ-ขายผ่านช่องทางออนไลน์ เข้ามามีบทบาทสำคัญในปัจจุบันและมีการเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง ส่งผลต่อแนวทางการทำตลาดและการจัดกิจกรรมของอุตสาหกรรมยานยนต์ในช่วงที่ผ่านมาเป็นอย่างมาก

แต่การที่ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์และรถจักรยานยนต์กว่า 40 แบรนด์ ยังคงนำผลิตภัณฑ์เข้ามาร่วมจัดแสดงเต็มพื้นที่การจัดงานกว่า 170,960 ตารางเมตร น่าจะแสดงให้เห็นได้ว่างาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ยังคงมีส่วนสำคัญในการช่วยกระตุ้นความต้องการของผู้บริโภคและช่วยสนับสนุนการซื้อ-ขายในอุตสาหกรรมยานยนต์ ได้เป็นอย่างดี

เป้าหมายของการจัดงานในปีนี้ ทางผู้จัดตั้งเป้าการเติบโตไว้ประมาณ 15-20 เปอร์เซ็นต์ ทั้งในส่วนของจำนวนผู้เข้าชมงาน และยอดจองรถยนต์และรถจักรยานยนต์ภายในงาน เนื่องมาจากปัจจัยบวกในหลายด้าน ทั้งการผ่อนปรนมาตรการการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทิศทางของอุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศเริ่มกลับเข้าสู่สภาวะปกติ ไปจนถึง การเข้ามาของรถพลังงานไฟฟ้ารุ่นใหม่ ๆ ทั้งในกลุ่มของรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ทำให้เชื่อมั่นว่า การจัดงานในปีนี้จะมีการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน

“ผมมั่นใจว่าการจัดงานในปีนี้ จะเป็นอีกครั้งที่ งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ จะแผ่ขยายศักยภาพการจัดงานฯ เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจ และพัฒนาธุรกิจยานยนต์ของประเทศไทย ให้ยิ่งใหญ่อีกครั้ง จากเม็ดเงินลงทุนจานวนมหาศาล ในการสร้างงาน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ การออกแบบ การก่อสร้าง และการจ้างงานในด้านต่าง ๆ ที่เกี่ยวเนื่อง จะสร้างเม็ดเงิน เสริมรายได้ และกระตุ้นเศรษฐกิจ ภายในประเทศ ให้เติบโตไม่ต่ากว่า 50,000 ล้านบาท ซึ่ง ส่งผลดีกับกลุ่มผู้ประกอบการ ทั้งในกลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรมยานยนต์ และกลุ่มธุรกิจที่ เกี่ยวเนื่องทั้งหมด” นายจาตุรนต์กล่าว

Message us