มท.ลุยขับเคลื่อน”โครงการอำเภอบำบัดทุกข์ บำรุงสุข เคลื่อนที่”บุกป่าขึ้นดอยสูง

เมื่อวันที่ 26 ส.ค. นายสุระวุธ จันทร์งาม นายอำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ตนพร้อมภาคีเครือข่ายได้ลงพื้นที่บ้านแม่นิง-โป่งขนุน หย่อมบ้านแม่นิงใน หมู่ที่ 15 ต.แม่ศึก อ.แม่แจ่ม ซึ่งเป็นหย่อมบ้านที่มีการเก็บใบชาจำหน่าย เนื่องจากใบชามีรสชาติดีและมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว โดยเส้นทางสัญจรเป็นไปด้วยความยากลำบาก ต้องใช้รถมอเตอร์ไซค์พันโซ่ขับขี่สลับกับการเดินเท้าบนภูเขาสูงชัน ระยะทางร่วม 7 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง ได้พบกับต้นชาอายุ 3,000 ปี ตั้งอยู่ในระดับความสูง 1,950 เมตร จากระดับน้ำทะเล ลำต้นสูงประมาณ 20 เมตร ขนาดลำต้น 2 คนโอบ จุดที่พบเป็นบริเวณเชื่อมต่อหมู่บ้านแม่หงานหลวง ต.ปางหินฝน อ.แม่แจ่ม กับ บ้านแม่นิง-โป่งขนุน ต.แม่ศึก อ.แม่แจ่ม และในบริเวณนี้ยังพบต้นชาเก่าแก่ขึ้นอยู่ระหว่างทาง อาทิ ต้นชาอายุ 1,800 ปี ซึ่งได้แนะนำการบำรุงดูแลต้นชา การเก็บชาให้ถูกวิธี และหารั้วไม้ไผ่มาล้อมช่วยป้องกันสัตว์ เพื่อจะได้เป็นการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้อยู่คู่กับพวกเราไปอย่างยาวนาน

ทั้งนี้ อำเภอแม่แจ่มมีความปรารถนาและมุ่งมั่นตั้งใจที่จะ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนให้ดีและมีความสุขตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (UN SDGs) โดย ได้รวมพลังภาคีเครือข่ายลงพื้นที่ขับเคลื่อนโครงการ “อำเภอบำบัดทุกข์ บำรุงสุข เคลื่อนที่” ณ ศูนย์การศึกษาเพื่อชุมชนในเขตภูเขา ศศช. หย่อมบ้านแม่นิงใน หมู่ที่ 15 ตำบลแม่ศึก อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อรับฟังปัญหาและให้บริการพี่น้องประชาชนในเชิงรุก โดยมี หัวหน้าส่วนราชการ องค์การบริหารส่วนตำบลแม่ศึก กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ตำบลแม่ศึก สถานีตำรวจภูธรแม่แจ่ม กิ่งกาชาดอำเภอแม่แจ่ม โรงพยาบาลเทพรัตนเวชชานุกุล เฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา สาธารณสุขอำเภอแม่แจ่ม ปศุสัตว์อำเภอแม่แจ่ม พัฒนาการอำเภอแม่แจ่ม หน่วยป้องกันและพัฒนาป่าไม้แม่แจ่ม และพี่น้องประชาชนในพื้นที่เข้าร่วมกิจกรรม

กระทรวงมหาดไทยให้ความสำคัญอย่างยิ่งในการขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (UN SDGs) และตระหนักถึงความสำคัญในการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนทั้ง 17 ข้อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนาคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชน ดังนั้น “ทีมอำเภอบำบัดทุกข์ บำรุงสุข แบบบูรณาการอย่างยั่งยืน” โดยมี “นายอำเภอ” เป็นผู้นำทีมอำเภอ อันประกอบด้วย ทีมที่เป็นทางการ คือ ข้าราชการ นำโดยปลัดอำเภอประจำตำบล บุคลากรของทุกส่วนราชการในพื้นที่ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ และทีมจิตอาสา อันประกอบด้วย ภาคีเครือข่ายทั้ง 7 ภาคี คือ ภาคราชการ ภาคผู้นำศาสนา ภาควิชาการ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม ภาคประชาชน และภาคสื่อสารมวลชน บูรณาการร่วมกันทำงาน ซึ่งมีนายอำเภอในฐานะผู้นำการบูรณาการของพื้นที่ เพื่อบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ให้กับพี่น้องประชาชน โดยมีเป้าหมายคือ “ประชาชนทุกคนสามารถพึ่งพาตนเองได้ เป็นโอกาสที่ต่อยอดไปสู่การสร้างงาน สร้างรายได้ สร้างอาชีพ ให้แก่คนในชุมชน เสริมสร้างเศรษฐกิจฐานรากให้มั่นคงอย่างยั่งยืน”

นายอำเภอแม่แจ่ม กล่าวต่อว่า การลงพื้นที่ขับเคลื่อนโครงการ “อำเภอบำบัดทุกข์ บำรุงสุข เคลื่อนที่” ในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้บริการประชาชนเชิงรุก ทำให้ประชาชนเข้าถึงการบริการภาครัฐได้สะดวกมากขึ้น รวมทั้งเป็นการรับทราบถึงปัญหาความต้องการของพี่น้องประชาชนในพื้นที่หย่อมบ้านแม่นิงใน ที่ปัจจุบันไม่มีไฟฟ้าใช้และไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ เพื่อจะได้จะได้นำไปประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาพัฒนาคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนให้ดีขึ้นต่อไป อำเภอแม่แจ่มยังได้ร่วมกับกิ่งกาชาดอำเภอแม่แจ่ม มอบถุงยังชีพให้แก่ผู้ขาดแคลนรายได้กลุ่มเปราะบาง จำนวน 5 ชุด เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของชาวบ้านในเบื้องต้น และยังได้มอบกล้าไม้ให้กับพี่น้องประชาชนเพื่อเป็นการน้อมนำแนวพระราชดำริด้านการเสริมสร้างความมั่นคงทางอาหารของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี “บ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง” และ “ทางนี้มีผล ผู้คนรักกัน” กระตุ้นให้เกิดการสร้างความมั่นคงทางอาหารให้กับพี่น้องประชาชนตั้งแต่ในระดับครัวเรือน สร้างคลังอาหารชุมชน/ท้องถิ่น มีพืชผักที่ปลอดสารเคมี ทำให้คนในชุมชนได้อาหารที่สมบูรณ์ปลอดภัย สามารถจัดการตนเองและพึ่งตนเองได้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง

Message us