
เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมหารือการบริหารจัดการน้ำ (แก้ไขปัญหาน้ำท่วมในพื้นพื้นที่ภาคเหนือ) ว่า น น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แสดงความห่วงใยผู้ได้รับผลกระทบน้ำท่วมขณะนี้ มอบผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้า เน้นจัดการสถานการณ์ด้วยข้อมูลที่แม่นยำ เพื่อรักษาชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน ขณะที่ สั่งพณ. ดูแลสินค้าต้องไม่แพง ไม่ขาดแคลน ขณะนี้ น.ส.แพทองธาร ขณะนี้ยังไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่อย่างสมบูรณ์ แต่ก็แสดงความห่วงใยพี่น้องประชาชน พร้อมขอให้ทุกภาคส่วนร่วมกันช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ประสบปัญหาอุทกภัยในครั้งนี้
นายภูมิธรรม กล่าวว่า การประชุมวันนี้ เป็นการเรียกประชุมฉุกเฉินของสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) จากกรณีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือ ซึ่งปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาเป็นจำนวนมาก รัฐบาลได้รับทราบรายงานตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา และได้มีการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัด กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ดูแลการป้องกันภัยทั้งหมด รวมทั้งกรณีช่วยเหลือนักเรียนที่ติดอยู่ในโรงเรียนเวียงแก่นวิทยาคม ขณะนี้ได้ดำเนินการให้ความช่วยเหลือและนำนักเรียนกลับยังที่พักอย่างปลอดภัย
นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า การประชุมวันนี้ได้มีการทบทวนแผนงานที่เคยได้มีการกำหนดไว้ในช่วงที่ผ่าน ขอให้กระทรวงมหาดไทยตั้งศูนย์เฉพาะแต่ละจังหวัด โดยผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นคนกลางมีอำนาจหน้าที่โดยตรงในการดูแลและประสานหน่วยราชการต่าง ๆ เพื่อให้เกิดขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่จังหวัดเชียงราย แพร่ น่าน พะเยา รวมไปถึงสุโขทัย ซึ่ง รองนายกรัฐมนตรี (นายอนุทิน ชาญวีรกูล) ซึ่งดูแลกระทรวงมหาดไทยและดูแลกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ทั้งหมดได้มีการสั่งการไปเรียบร้อยแล้ว และจะไปดูเพิ่มเติมข้อกฎหมายต่าง ๆ สามารถดำเนินการได้หรือไม่ หากจะประเมินว่าจุดไหนเกิดอุทกภัย และขอให้ประกาศเป็นเขตภัยพิบัติ เพื่อจะได้ใช้อุปกรณ์และเครื่องมือต่าง ๆ ที่มีอยู่ในการแก้ไขดำเนินการได้เร็วที่สุดและป้องกันภัยปัญหาของพี่น้องประชาชน
นอกจากนั้น ยังสั่งการไปยังกระทรวงพาณิชย์แล้ว ให้ดูแลสินค้าบริโภคและอุปโภคต้องไม่ขาด ราคาสินค้าต้องไม่แพง ไม่ให้เกิดการซ้ำเติมพี่น้องประชาชน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะลงพื้นเพื่อติดตามสถานการณ์ด้วย อีกทั้งยังมอบหมายกระทรวงกลาโหม และกองทัพภาคที่ 3 นำกำลังพล และเครื่องมือต่าง ๆ ที่มีอยู่เข้าไปช่วยเหลือในพื้นที่ประสบภัย และให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กรมชลประทาน เตรียมการเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง และทุกส่วนให้ดำเนินการตามหน้าที่และภารกิจของตน โดยไม่ต้องรอให้เกิดภัยพิบัติเกิดขึ้น
สำหรับ กระทรวงศึกษาธิการ ให้สั่งการเขตพื้นที่การศึกษา สถานศึกษาในพื้นที่เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำป่าไหลหลาก โดยดูความปลอดภัยของนักเรียนและครูเป็นสำคัญ ผู้อำนวยการโรงเรียนพิจารณาตามความเหมาะสมสั่งปิดเรียนได้ทันที เพื่อความปลอดภัยของนักเรียนในด้านการเดินทางอีกด้วย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ดูแลในส่วนที่เกี่ยวข้องเรื่อง เขตป่าและดำเนินการตรวจสอบฝายคันดินต่าง ๆ ที่มีจุดกักเก็บน้ำ หากพบจุดที่บกพร่องซ่อมได้ก็ซ่อมทันที รวมทั้งแจ้งให้พี่น้องประชาชนได้ทราบก่อน รวมทั้งกระทรวงคมนาคมให้ตรวจสอบเส้นทาง ถนน คอสะพาน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาและเป็นอุปสรรคต่อการขัดขวางทางน้ำผ่าน
“ยืนยันว่าเอาอยู่ รัฐบาลทั้งหมดร่วมกันทำงาน ไม่มีช่องว่างแม้เป็นรัฐบาลรักษาการ รัฐบาลทำหน้าที่ระหว่างรอรัฐบาลใหม่เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ ในส่วนงบประมาณ ขณะนี้ได้ประกาศให้ใช้งบประมาณภัยพิบัติได้ หากมีปัญหาก็สามารถอนุมัติงบกลางให้ไปดำเนินการได้” รักษาการนายกรัฐมนตรี กล่าว