พ่อเมืองนครนายกเดินหน้าเต็มสูบขับเคลื่อนโครงการหนึ่งตำบล หนึ่งหมู่บ้านยั่งยืน

เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. นายบัญชา เชาวรินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายก เปิดเผยว่า จังหวัดนครนายกมีความมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนงานเพื่อ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนให้ดีและมีความสุขตามนโยบายที่สำคัญของกระทรวงมหาดไทย ด้วยการน้อมนำพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการสืบสาน รักษา และต่อยอด แนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เพื่อทำให้ประชาชนพึ่งพาตนเอง อันสอดคล้องกับการขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (UN SDGs) ที่ทุกจังหวัดได้ร่วมประกาศเจตนารมณ์กับสหประชาชาติประจำประเทศไทย ภายใต้แนวคิด “76 จังหวัด 76 คำมั่นสัญญา เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน”

ทั้งนี้ จังหวัดนครนายกได้มอบหมายให้นายคณิต คงช่วย รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายก พร้อมด้วย นายศราวุธ สุวรรณจูฑะ ปลัดจังหวัดนครนายก และคณะทำงานติดตามการดำเนินการขับเคลื่อนการพัฒนาหมู่บ้านยั่งยืน (Sustainable Village) จังหวัดนครนายก ทั้งผู้แทนที่ทำการปกครองจังหวัด ผู้แทนพัฒนาการจังหวัด ผู้แทนท้องถิ่นจังหวัดลงพื้นที่หมู่ 4 ตำบลบ้านใหญ่ หมู่ 16 พรหมมณี อำเภอเมืองนครนายก และพื้นที่หมู่ 6 ตำบลบึงศาล ตำบลพระอาจารย์ ตำบลโพธิ์แทน อำเภอองครักษ์ เพื่อตรวจเยี่ยม รับฟังปัญหา พร้อมทั้งให้คำแนะนำและประสานงานแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน รวมทั้งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนลงทะเบียนแอปพลิเคชัน ThaiD เพื่อที่จะเข้าถึงการบริการของหน่วยงานภาครัฐได้สะดวกยิ่งขึ้น

นายบัญชา กล่าว่า “โครงการหนึ่งตำบล หนึ่งหมู่บ้านยั่งยืน (Sustainable Village)” ซึ่งเป็นโครงการเพื่อเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมายุครบ 3 รอบ 36 พรรษา ที่กระทรวงมหาดไทย ได้น้อมนำแนวพระดำริเรื่อง “หมู่บ้านยั่งยืน” (Sustainable Village) มาดำเนินการขับเคลื่อน เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในหมู่บ้านให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคม พร้อมทั้งขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) ด้วยการด้วยการน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ภายใต้เป้าหมายการสร้างความยั่งยืนให้ครอบคลุมในทุกมิติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม นำไปสู่การพัฒนาตนเองที่ยั่งยืน ผ่านการบูรณาการการทำงานร่วมกันเพื่อให้ “หมู่บ้านยั่งยืน” (Sustainable Village) เกิดผลเป็นรูปธรรม

“หน้าที่ที่สำคัญที่สุดของข้าราชการทุกคน คือ การทำให้ประชาชนอยู่ดี กินดี พึ่งพาตนเองได้อย่างมีความสุข” ด้วยการต้องหมั่นลงพื้นที่ไปติดตามถามไถ่ ไปเยี่ยมเยียน ไปเสนอแนะ ไปให้กำลังใจพี่น้องประชาชนในการดำเนินชีวิตประจำวัน ดังพระโอวาทของสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ที่ได้ประทานไว้ว่า “ต้องทำงานให้รองเท้าสึกก่อนกางเกงขาด” ซึ่งการลงพื้นที่ช่วยเหลือกัน โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังในครั้งนี้ ทำให้ได้รับฟังและเห็นปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน เช่น ถนนทางลูกรังที่ทำให้การเดินทางของพี่น้องประชาชนไม่สะดวกในฤดูฝน ปัญหาการระบายน้ำในช่วงฤดูฝน ทำให้น้ำท่วมบ้านเรือน ปัญหามลพิษ ฝุ่นละอองที่เกิดจากถนนบายพาส ปัญหาเอกสารสิทธิที่ดินทำกิน ปัญหาวัชพืชในแม่น้ำลำคลอง เป็นต้น โดยได้ให้คำแนะนำในการแก้ไขปัญหา รวมทั้งประสานงานแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชนให้พ้นจากความเดือดร้อน ซึ่งการหมั่นลงพื้นที่นี้เองจะทำให้ประชาชนอุ่นใจ สบายใจ และมีกำลังใจในการประกอบอาชีพสร้างรายได้จุนเจือครอบครัว ด้วยหลักการเดียวกันคือ “ทำทุกพื้นที่ให้เป็นหมู่บ้านยั่งยืน” ผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายกกล่าว

อย่างไรก็ตาม การมุ่งมั่นตั้งใจของทุกภาคส่วนที่มาร่วมกันบูรณาการการทำงานร่วมกันเพื่อให้ “หมู่บ้านยั่งยืน” (Sustainable Village) เกิดผลเป็นรูปธรรมในครั้งนี้ จะสร้างแรงบันดาลใจ และ Passion ให้ทุกคนในพื้นที่มาร่วมกันค้นหาปัญหาและกำหนดแนวทางไปสู่การแก้ไขปัญหาและพัฒนาคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนให้ดีขึ้น รวมทั้งส่งเสริมพลังการมีส่วนร่วมให้เพิ่มพูนให้ทำงานร่วมกันได้อย่างยั่งยืน เกิดการพัฒนาพื้นที่ในจังหวัดนครนายกเป็นจังหวัดที่มีความสุขอย่างยั่งยืนตลอดไป

Message us