“พิธา”ชี้ประชาชนเป็นใหญ่ไม่ใช่”นายใหญ่-ครูใหญ่-บ้านใหญ่”

เมื่อช่วงค่ำวันที่ 16 เมษายน ที่บริเวณหน้าที่ว่าการ อ.นาบอน จ.นครศรีธรรมราช พรรคประชาชน (ปชน.เปิดเวทีปราศรัย “นาบอนเปลี่ยนได้ ประชาชนเปลี่ยนจริง” เพื่อรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งซ่อม สส.นครศรีธรรมราช เขต 8 แทนตำแหน่งที่ว่างลง โดยพรรคประชาชนได้ส่ง “ดร.นัท” นายณัฐกิตต์ อยู่ด้วง ผู้สมัครหมายเลข 3 เป็นผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งในนามพรรคประชาชนสำหรับการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในวันที่ 27 เมษายน บนเวทีมีทั้งแกนนำและผู้ช่วยหาเสียงของพรรคประชาชนร่วมปราศรัยและพบปะประชาชนที่มาร่วมฟังกันอย่างคับคั่ง

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ที่ปรึกษาประธานคณะก้าวหน้า และผู้ช่วยหาเสียงของพรรคประชาชน ปราศรัยว่า ในการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้แม้จะมีหลายฝ่ายมองว่าเป็น 3 รุม 1 แต่ตนก็ไม่เคยกลัว ยิ่งในยามที่รัฐบาลเป็นรัฐบาลข้ามขั้วแบบนี้ประเทศยิ่งต้องการฝ่ายค้านที่เข้มแข็ง ประเทศไทยต้องการการเมืองดี ปากท้องดี มีอนาคต แต่รัฐบาลวันนี้นอกจากข้ามขั้วรวมเป็นรัฐบาลเดียวกันแล้ว ยังไม่มีประสิทธิภาพ ตนก็เลยเป็นห่วงว่าจะกลายเป็นการเมืองยุ่ง ปากท้องแย่ และแช่แข็งอนาคต



นายพิธา กล่าวว่า วันนี้โลกกำลังถล่มประเทศไทย แล้วรัฐบาลทำอะไรกันอยู่ เกือบ 5% ของการส่งออกของประเทศวันนี้คืออุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ยาง ทั้งประเทศไทยปลูกยางทั้งหมด 22 ล้านไร่ 10% หรือเกือบ 2 ล้านไร่อยู่ที่นครศรีธรรมราช คิดเป็นอันดับสองของประเทศ ความไร้ประสิทธิภาพในการต่อสู้กับภาษีของสหรัฐอเมริกากำลังจะมาอยู่ที่หน้าบ้านประชาชนชาวนาบอนแล้ว คนที่จะไปเจรจาตนขอฝากไปด้วย หวังว่ารัฐบาลจะไปเจรจาเรื่องผลิตภัณฑ์ยาง ซึ่งจะส่งผลมาสู่ราคายาง

ทั้งนี้ การต่างประเทศมีความสัมพันธ์กับเกษตรกรและประชาชนอย่างยิ่ง ต้องการคนที่มีความกระตือรือร้นในการแก้ไขปัญหา ขณะที่อเมริกาตั้งภาษีสูง แม้จะรอ 90 วันแต่ทุกอย่างก็ชะงัก ประเทศไทยส่งออกยางไปอเมริกากว่า 30% ถ้าเป็นยางรถยนต์ 18% คู่แข่งวันนี้มีทั้งแม็กซิโก แคนาดา เวียดนาม มาเลเซีย ถ้าสหรัฐอเมริกาคุยกับแม็กซิโกและแคนาดาได้ ยางไทยลำบากแน่นอน ตอนนี้ดัชนีภาคการผลิตของอุตสาหกรรมในประเทศไทยแย่กว่าช่วงโควิดเสียอีก เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเป็นภาคเกษตรหรืออุตสาหกรรมที่โลกบีบเข้ามา ประเทศไทยต้องการรัฐบาลที่มีสมาธิ เป็นตัวของตัวเอง และสามารถมองไปข้างหน้าได้ แต่ทุกวันนี้ยังไม่เห็นอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน นโยบายก็ไม่ขยับ ที่หาเสียงไว้ไม่ได้ทำ ที่ทำไว้ไม่ได้หาเสียง



“สุขภาพของประชาธิปไตยไม่ได้อยู่ที่รัฐบาลเข้มแข็งขนาดไหน แต่อยู่ที่ฝ่ายค้านเข้มแข็งและยึดโยงกับประชาชนมากแค่ไหน และเป็นการตอบคำถามว่าพรรครัฐบาล 3 พรรครุมพรรคฝ่ายค้าน 1 พรรค ทำไมต้องเลือกคนใหม่ คำตอบก็คือเพราะคนใหม่คนนี้คือคนที่บอกว่าประชาชนใหญ่ ไม่ใช่นายใหญ่ ครูใหญ่ หรือบ้านใหญ่ นี่คือการผนึกกำลังของประชาชน เพื่อส่งสัญญาณไปยังรัฐบาลข้ามขั้วและความไร้ประสิทธิภาพในการบริหารของพวกเขา คือการสร้างโอกาส สร้างปาฏิหาริย์และปรากฏการณ์ใหม่ให้พรรคประชาชนในภาคใต้ สร้าง สส. เขตของพรรคประชาชนคนแรกของนครศรีธรรมราช”นายพิธากล่าว

น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวว่า วันนี้เราต้องการ สส. ฝ่ายค้านเพิ่มเพื่อเข้าไปเสริมกำลังฝ่ายค้านให้เข้มแข็งขึ้น ในเวลาที่ปัญหาการทุจริตกัดกินไปทุกแห่ง แม้ฝ่ายค้านจะมีถึงกว่า 140 เสียงก็ไม่เคยเพียงพอ อย่างเช่นเรื่องเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เรื่องง่ายๆ ที่แค่ต้องฟังเสียงของประชาชนให้มากขึ้น แต่รัฐบาลก็ยังรีบร้อนอยากดันกฎหมายนี้ให้เข้าสภาฯ อย่างลุกลี้ลุกลน แม้พรรคฝ่ายค้านจะมีเสียงเพียงแค่นี้แต่ก็พยายามทำเต็มที่เพื่อให้รัฐบาลกลับไปคิดมาใหม่ แต่เสียงก็ยังไม่พอ เหตุที่ล่าช้าออกไปจนไม่ได้เข้าสภาฯ ภายในสมัยนี้ก็เพราะพรรคร่วมรัฐบาลแทงกันเอง



อย่างไรก็ตาม เราจึงต้องการฝ่ายค้านเข้าไปตรวจสอบเพิ่ม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องประกันสังคม ถ้าไม่ใช่เพราะ สส. พรรคฝ่ายค้าน ทุกวันนี้ผู้ประกันตนก็คงจะยังไม่รู้ว่าไปเป็นเจ้าของตึก 7 พันล้านตั้งแต่เมื่อไหร่ เรื่องตึก สตง. ที่ถล่มก็สะท้อนปัญหาที่เกาะลึกแทรกซึมไปถึงทุกหย่อมหญ้าของรัฐราชการไทย เปิดพรมตรงไหนก็เจอการทุจริต ยิ่งเป็นเช่นนี้ก็ยิ่งต้องการฝ่ายค้านที่เข้มแข็งขึ้น เลือกเบอร์อื่นก็ได้ สส. ไปร่วมหอลงโลงกับพรรคร่วมรัฐบาลเหมือนเดิม มีแต่เบอร์ 3 เท่านั้นที่เป็นตัวแทนของฝั่งพรรคฝ่ายค้าน

น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า อีกเหตุผลหนึ่งคือประเทศนี้ขับเคลื่อนด้วยการด่า ถ้าได้ สส. รัฐบาลเพิ่มอีกหนึ่งคน สส. คนนั้นก็จะไม่ด่ารัฐบาล สุดท้ายก็ไม่มีใครเข้าไปด่าแทนพวกเราเพราะผสมพันธุ์เป็นพวกเดียวกันหมดแล้ว เราจึงต้องมีพรรคฝ่ายค้านมาขับเคลื่อนการแก้ปัญหาด้วยการด่าเพิ่มอีกคน และยังบอกวิธีการแก้ไขให้ด้วย และจะนำไปสู่การแก้ปัญหาที่ดีขึ้น



“วันนี้ขนาดยังไม่มีวิกฤตเศรษฐกิจ รัฐบาลก็ยังแก้ปัญหาปากท้องไม่ได้ ประชาชนมีปัญหารายได้ฝืดเคืองก็บอกเอาเงินไปคนละหมื่น ขายดีได้อยู่ไม่กี่วันสุดท้ายก็กลับมาเงียบเหมือนเดิม ไม่ว่าจะเป็นพรรคแกนนำหรือพรรคร่วมรัฐบาลก็ไม่ต่างกัน วันนี้พายุหมุนทางเศรษฐกิจของจริงกำลังมา นั่นคือพายุหมุนเศรษฐกิจจากสหรัฐอเมริกาที่กำลังจะกระแทกใส่ประชาชน”น.ส.ศิริกัญญา

น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า เราต้องการคนที่เข้าไปเป็นปากเสียงแทนประชาชน พูดแทนประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากปัญหา ถ้าพูดดีๆ แล้วยังไม่ทำประเทศนี้ก็ต้องขับเคลื่อนด้วยการด่า เราต้องการคนอย่างณัฐกิตต์ที่พร้อมทำงานทันทีเมื่อได้เป็น สส. พร้อมทำงานเพื่อประชาชน อย่าไว้วางใจรัฐบาลจนไม่เรียกร้องสิ่งที่ประชาชนควรจะได้ ถ้าเรียกร้องกับ สส. รัฐบาลก็จะได้ สส. ที่แอบไปบอกเงียบๆ เพราะไม่กล้าพูดว่ารัฐบาลทำผิดอย่างไร ทางเดียวที่จะทำให้รัฐบาลทำงานได้อย่างถูกต้องก็ต้องเพิ่ม สส. ฝ่ายค้านเข้าไปอีกหนึ่งคน ไปพูดและไปขับเคลื่อนแทนประชาชน มีฝ่ายค้านที่เข้มแข็งในยามที่รัฐบาลอ่อนแอปวกเปียก ไม่สามารถแก้ปัญหาปากท้องให้ประชาชนได้อย่างที่โฆษณาเอาไว้

Message us