“พิธา”ชิงนายกฯรอบ 2 ยอมรับถ้าได้ไม่ถึง 344 เสียงเปิดทางเพื่อไทยตั้งรัฐบาล

เมื่อวันที่ 17 ก.ค. ที่ตึกไทยซัมมิท มีการประชุมร่วมกันระหว่าง 8 พรรคการเมืองร่วมจัดตั้งรัฐบาล เพื่อหารือทิศทางในการลงมติเลือกแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ครั้งที่ 2 ในวันที่ 19 ก.ค. ภายหลังการประชุม นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่า ที่ประชุมมีข้อสรุปร่วม 3 ข้อ ในวันที่ 19 ก.ค.คือ  1.มติ 8 พรรคร่วมยังส่ง นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกฯ คนที่ 30 2.ยื่นแก้มาตรา 272 พรรคก้าวไกลยื่นพรรคเดียว ไม่เกี่ยวข้องกับอีก 7 พรรค และ 3.ข้อบังคับที่ 41 มีความเห็นในทางกฎหมาย ไม่น่าจะเข้าเป็นเรื่องของรัฐธรรมนูญ ไม่ถือว่า เป็นญัตติ ในการเสนอชื่อ นายกฯ  เห็นต่างกับวุฒิสภาในเรื่องนี้ และวันที่ 18 ก.ค.จะมีการประชุมวิปอีกครั้ง จะได้ฟังเหตุผลฝั่งตรงข้าม 

ทั้งนี้ ความสัมพันธ์ 8 พรรคร่วมเป็นไปด้วยดี มีความพยายามจะตั้งรัฐบาลของประชาชนให้ได้ และมีมติส่งตนอีกครั้ง จะพยายามใช้เวลาอย่างเต็มที่ หากครั้งนี้ตัวเลขการโหวตยังไม่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ก็พร้อมถอยให้พรรคเพื่อไทย ขึ้นมาเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ตามที่เคยแถลงการณ์ไปเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยตัวเลขที่วางเอาไว้ว่า ควรเพิ่มจากการโหวตรอบแรกนั่นก็คือ 344-355 เสียง หรือขึ้นมา 10% 

นายพิธา ยังยืนยันว่า พรรคก้าวไกล จะไม่ถอยเรื่องมาตรา 112 เพราะเป็นสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชน และมองว่าเป็นเพียงข้ออ้าง ของผู้ที่จะไม่โหวตให้ เชื่อว่าหากไม่มีเรื่องนี้ก็มีเรื่องอื่น ส่วนการต่อสายโทรศัพท์ไปพูดคุย กับหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลเดิม ยอมรับได้มีการพูดคุยกันแต่เป็นการพูดคุย แลกเปลี่ยนทางการเมืองเท่านั้นไม่ได้เป็นการพูดคุยเพื่อชวนร่วมรัฐบาล และไม่ได้โทรไปเพื่อขอเสียง ยกเว้นพรรคลุงที่ไม่ได้มีการพูดคุยเลย

ผู้สื่อข่าวถามว่า ประเมินหรือไม่ว่าการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีรอบสอง จะมีการเสนอชื่อแข่ง นายพิธา กล่าวว่า จากคำให้สัมภาษณ์หลายพรรคมีการพูดถึงเรื่องรัฐบาลเสียงข้างน้อยที่เป็นไปไม่ได้ คิดว่าคงเป็นไปไม่ได้ 

Message us