
นายพชร นริพทะพันธุ์ ที่ปรึกษาประจำประธานกสทช. เข้าร่วมการเสวนา หัวข้อ “Killed by Red Tape: Why Working Towards Open Government is So Difficult” บนเวทีประชุมสุดยอดเทคโนโลยีโอเพนซอร์สชั้นนำแห่งเอเชีย “FOSSASIA Summit 2025” วันที่ 13-15 มีนาคม 2568 ณ True Digital Park พร้อมด้วยคนรุ่นใหม่จากทั่วโลกกว่า 170 คน อาทิ องค์กรธุรกิจ นักพัฒนานวัตกรรม นักศึกษา มาร่วมแชร์ความสำเร็จการพัฒนา AI และ Big Data
นายพชร กล่าวว่า กสทช.เป็นหนึ่งในองค์กรที่เห็นความสำคัญของเศรษฐกิจดิจิทัล ผู้นำเทคโนโลยีมาพัฒนาด้านกำกับดูแลธุรกิจโทรคมนาคม ดาวเทียม และเครือข่ายสื่อสารของประเทศไทย รวมถึงการสร้างความร่วมมือกับหน่วยงานด้านอื่นๆ อาทิ สถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน) ที่ตั้งขึ้นมาเพื่อขับเคลื่อนระบบ AI และ Big Data สะท้อนถึงความพยายามสร้างกระบวนการทำงานใหม่ที่เปิดกว้างและความโปร่งใสในทุกๆมิติ

นายพชร มองว่า ในระบบราชการยังพบปัญหาความล่าช้า กระบวนการทำงานและกฎระเบียบที่มากมาย จนส่งผลกระทบต่อการพัฒนาเทคโนโลยีให้ทันสมัย ยกตัวอย่าง โครงการพัฒนา open mapping หรือ street mapping ที่เอกชนพยายามผลักดันมาตลอด 2 ปี แต่ต้องเผชิญอุปสรรคในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ นับเป็นปัญหาที่สะท้อนว่า Digital Mindset ในเมืองไทยอาจยังไม่เกิดขึ้นอย่างจริงจัง
อีกตัวอย่างหนึ่ง ก็คือ กระบวนการแก้ปัญหาหลอกลวงในโลกออนไลน์และแก็งค์คอลเซ็นเตอร์ ที่บรรดาอาชญากรข้ามชาติมีอุปกรณ์และเครือข่ายสื่อสารที่ล้ำหน้ามาก ประเทศไทยจึงต้องการเครื่องมือที่ทันสมัยมากกว่าในการต่อสู้กับอาชญากรรมทางไซเบอร์เหล่านี้ แต่ก็ยังติดปัญหาเกี่ยวกับระบบราชการและกฎระเบียบการจัดซื้อจัดจ้าง ที่อาจทำให้หน่วยงานปฏิบัติตามไม่ทันความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น

“สิ่งที่อยากเห็นคือการพัฒนาในรูปแบบ Open Access คือการเปิดให้คนเข้ามาร่วมพัฒนาและร่วมกันเป็นเจ้าของใน ระบบการบริหารจัดการของรัฐ เพื่อประสิทธิภาพ ความโปร่งใส ประหยัด และคอยทานอำนาจบริษัท Big Tech ได้ เป็นการกระจายอำนาจอย่างหนึ่ง แต่ทุกวันนี้ เรามี Red Tape คือระบบการบริหารจัดการของรัฐที่ควบคุมการทำงานในรูปแบบเดิม ใช้คนเปลือง กระบวนการที่ซ้ำซ้อน ยากต่อการเข้าถึง และไม่เป็นผลดีต่ออนาคตของชาติ หากไม่เปลี่ยนแปลงประเทศจะไปอยู่ใต้อาณานิคมของบริษัทเอกชนใดเอกชนหนึ่ง”
ที่ปรึกษาประจำประธานกสทช. กล่าวอีกว่า สิ่งที่อยากให้เกิดความเปลี่ยนแปลง คือเรื่องของ Digital Mindset ของหน่วยราชการต่างๆ เพื่อเปิดช่องว่างให้เกิดการพัฒนา การยกระดับเทคโนโลยีของประเทศที่อัพเดทเท่าทันโลกอนาคต ดังนั้น จึงอยากเห็นหน่วยงานหลักๆ เช่น สำนักงบประมาณ มีความเข้าใจนักพัฒนาดิจิทัลและช่วยอำนวยความสะดวกหรือลดปัญหา red tape ให้บริษัทเอกชนที่เข้าร่วมงานภาครัฐด้วย

“ในส่วน ของ กสทช. ที่เป็นหน่วยงานกำกับดูแลกึ่งรัฐ ก็จะพยายามปรับตัว โดยทำในส่วนที่เราทำได้ ปีนี้เราจะเริ่มพัฒนาทดลองการใช้ AI Tutor ในระบบให้การศึกษากับเด็กนักเรียนในโรงเรียนที่มีศูนย์บริการ USO โดยจะเปิดกว้างในการทำ Open Access เพื่อการพัฒนาร่วมกันของชุมชนนี้” นายพชรกล่าว