ผบช.ภ.7 เร่งติดตามคดีลอบยางพาราเถื่อนผ่านด่านเจดีย์สามองค์

จากเหตุการณ์ พ.อ.พงศ์พัฒน์ ห้องสินหลาก ผบ.ร.29/ผบ.หน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์ พ.อ.สุรเดช เมฆานุวงศ์ รอง ผบ.หน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ทหารประจำจุดตรวจช่องทางบ่อขยะ ว่า มีรถขนยางพาราเถื่อน จากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามา ก่อนมุ่งหน้าสู่ด่านความมั่นคงบ้านน้ำเกิ๊ก จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจบ้านน้ำเกิ๊กให้ทำการตรวจสอบ พร้อมจัดชุดเคลื่อนที่เร็วออกติดตาม ก่อนจะไปพบว่ารถทั้ง 3 คันจอดหลบอยู่ในเส้นทางเข้าน้ำตกตะเคียนทอง หมู่ 9 บ้านพระเจดีย์สามองค์ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี

ทั้งนี้ รถทั้ง 3 คันคลุมด้วยผ้าใบอย่างมิดชิด เจ้าหน้าที่จึงส่งสัญญาณขอเข้าตรวจค้น พบภายในรถส่งกลิ่นเหม็นรุนแรงและมีน้ำหยดตลอดทาง พบยางพาราก้อนถ้วย เต็มคันรถทั้ง 3 คัน น้ำหนักคันละประมาณ 5,000 กิโลกรัม รวมน้ำหนักยางทั้ง 3 คันโดยประมาณ 15,000 กิโลกรัม มูลค่า 420,000 บาท จึงได้เข้าทำการควบคุมและประสานหน่วยตรวจพืชเกษตรด่านสังขละบุรี กองการยางแห่งประเทศไทย ด่านกักกันสัตว์ระหว่างประเทศจังหวัดกาญจนบุรี ตำรวจ สภ.สังขละบุรี ร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 134 ร้อย อส. อำเภอสังขละบุรี ทำการตรวจสอบ ก่อนจะนำคนขับรถและรถทั้ง 3 คันมาที่ด่านความมั่นคงบ้านน้ำเกิ๊ก เพื่อทำอายัดรถยนต์ และยางทั้งหมดไว้ เพื่อทำการการตรวจสอบที่มาของยางทั้งหมด

จากการสอบถามคนขับรถทั้ง 3 คนในเบื้องต้นให้การปฏิเสธอ้างว่ายางทั้งหมดเป็นยางในประเทศไทย มีผู้ว่าจ้างพวกตนให้ไปส่งโรงงานยางพาราแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอสังขละบุรี และอ้างว่ารับยางมาจากสวนแห่งหนึ่งในพื้นที่บ้านพระเจดีย์สามองค์ เพื่อความชัดเจนเมื่อวานนี้ (29 พ.ย.) เจ้าหน้าที่ทหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำคนขับรถทั้งหมดไปชี้จุดที่อ้างว่าไปรับยาง จากการลงพื้นที่ไม่พบร่องรอยของการนำยางทั้ง 5,000 กิโลกรัมมากองไว้ สอบถามคนงานในสวนยางให้การกับเจ้าหน้าที่ว่า ในสวนไม่เคยมีการนำยางมากองไว้ในลักษณะที่คนขับรถกล่าวอ้าง และการขนยางออกไปขายจะไม่มีการจ้างรถมาขน จะใช้รถยนต์ของสวนขนยางไปขายเอง

ในเวลาต่อมาคนขับรถทั้ง 3 คันได้รับสารภาพกับเจ้าหน้าที่ว่า ยางทั้งหมดเป็นยางที่นำเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้าน โดยนำเข้ามาทางช่องทางบ่อขยะ หมู่ 9 บ้านพระเจดีย์สามองค์ ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี เป็นพื้นที่ติดต่อกับบ้านไร่อ้อย เมืองพญาตองซู ประเทศเมียนมา และได้รับค่าจ้างคันละ 2,500 บาท

ล่าสุดเช้าวันนี้ (30 พ.ย.) พล.ต.ท นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.ตร.ภ.7 ได้เดินทางลงพื้นที่บ้านพระเจดีย์สามองค์ เพื่อตรวจสอบการนำเข้ายางจากประเทศเมียนมา พร้อมซักถามขั้นตอนการนำเข้าก่อนจะเดินทางไปยังช่องทางบ่อขยะ เพื่อสอบถามเหตุการณ์จากทหารประจำด่านที่อยู่ในเหตุการณ์ ก่อนเดินทางมาตรวจดูยางพาราทั้ง 3 คันที่เจ้าหน้าที่อายัดไว้ที่ด่านน้ำเกิ๊ก ก่อนจะเดินทางมาประชุมกับ นายรณภพ เวียงสีมา รอง ผวจ.กาญจนบุรี พ.อ.พงศ์พัฒน์ ห้องสินหลาก ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า พ.ต.อ.ไพฑูรย์ ศรีวิลัย ผกก.สภ.สังขละบุรี นายปัญญา นามสง่า ผอ.ส่วนบริการด่านศุลกากรสังขละบุรี เจ้าหน้าที่กองการยาง เจ้าหน้าที่เกษตรกรอำเภอสังขละบุรี

ภายหลังจากประชุม พล.ต.ท นัยวัฒน์ ให้สัมภาษณ์ว่า ได้กำชับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ให้มีความเข้มงวดในการปฏิบัติหน้าที่ป้องกันการลักลอบนำยางเถื่อนเข้ามาในประเทศ และได้สั่งการให้กองบังคับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค7 เข้ามาร่วมในการสอบสวนขยายผลให้ทราบถึงผู้ที่เกี่ยวข้องในขบวนการลักลอบนำยางเถื่อนเข้ามาในประเทศ หากพบว่าผู้ใดมีส่วนเกี่ยวข้องก็จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

ขณะที่ นายปัญญา นามสง่า ผอ.ส่วนบริการด่านศุลกากรสังขละบุรี กล่าวว่า สาเหตุที่มีการลักลอบนำยางจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาขายในประเทศไทย เนื่องจากขณะนี้ไม่สามารถขายยางในประเทศเมียนมาได้ สาเหตุจากสถานการณ์การสู้รบ ประกอบกับราคาที่ซื้อขายในเมียนมาอยู่ที่ กิโลกรัมละ 17-20 บาท ขณะที่ในประเทศไทยอยู่ที่ 27-29 บาท ทำให้มีคนบางกลุ่มลักลอบนำยางข้ามชายแดนมาขายในประเทศไทย

ข่าว/ภาพ : ปิยรัชต์ จงเจริญ ผู้สื่อข่าวจังหวัดกาญจนบุรี

Message us