ปลัดมท.ตรวจเยี่ยมโครงการหนึ่งตำบล หนึ่งหมู่บ้านยั่งยืนเฉลิมพระเกียรติ”เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ”

เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ ที่หมู่ที่ 3 ต.สันทรายหลวง อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการขับเคลื่อนโครงการหนึ่งตำบล หนึ่งหมู่บ้านยั่งยืน (Sustainable Village) เพื่อเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา และร่วมเสวนาการดำเนินงานพัฒนาพื้นที่ร่วมกับผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น โดยมี นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายศักดิ์ชัย คุณานุวัฒน์ชัยเดช รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นายอาทร พิมชะนก ผู้ตรวจราชการกรมการพัฒนาชุมชน นายประยุกต์ สุดธัญญรัตน์ พัฒนาการจังหวัดเชียงใหม่ นายภิญโญ พัวศรีพันธุ์ นายอำเภอสันกำแพง นางสาวญาดาภา หอมหวล เลขานุการกรมการพัฒนาชุมชน ร่วมลงพื้นที่ และร่วมสนทนาเกี่ยวกับการส่งเสริมความร่วมมือตามหลัก บวร บ้าน วัด ราชการ เพื่อเสริมสร้างการพัฒนาชีวิตที่ดีของพี่น้องประชาชนอย่างยั่งยืน

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงมีพระราชปณิธานอันแน่วแน่ในการแบ่งเบาพระราชภาระของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้วยทรงมุ่งมั่นดำรงพระองค์ในการบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ประชาชนคนไทยทุกคน ด้วยเพราะทรงห่วงใย ห่วงหาอาทรพสกนิกรของพระองค์ และทรงมุ่งหวังให้พวกเราทุกคนได้มีคุณภาพชีวิตที่ดี มีความสุข มีอาชีพที่มั่นคง มีรายได้ มีเงินทองเลี้ยงดูจุนเจือครอบครัว จุนเจือลูกหลาน โดยได้พระราชทานหนังสือ Sustainable City ให้แก่ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย และคณะ ซึ่งพวกเราทุกคนได้น้อมนำและขอรับพระราชทานพระอนุญาตขับเคลื่อนโครงการ “หมู่บ้านยั่งยืน (Sustainable Village)” ด้วยความจงรักภักดีของชาวราชสีห์ทุกภาคส่วน ทั้งส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่ง เพื่อเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสมหามงคลที่ทรงเจริญพระชนมายุครบ 3 รอบ 36 พรรษา ด้วยการคัดเลือกหมู่บ้านที่มีการพัฒนาน้อยที่สุดจากฐานข้อมูลพื้นฐานระดับหมู่บ้าน (จปฐ. และ กชช.2ค.) ตำบลละ 1 หมู่บ้าน รวม 7,255 หมู่บ้าน และดำเนินการพัฒนา

ทั้งนี้ เริ่มจากการพัฒนาคน โดยมี “นายอำเภอ” เป็นผู้นำการบำบัดทุกข์ บำรุงสุขแบบบูรณาการอย่างยั่งยืน ร่วมกับ “ทีมอำเภอ” ทั้งทีมที่เป็นทางการ หรือทีมที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมาย เช่น ปลัดอำเภอประจำตำบล พัฒนากรประจำตำบล เกษตรประจำตำบล รวมถึงกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน คณะกรรมการหมู่บ้าน (กม.) เป็นต้น และทีมจิตอาสาในพื้นที่ที่ประกอบด้วย ภาครัฐ ภาคผู้นำศาสนา ภาควิชาการ ภาคเอกชน ภาคประชาชน ภาคประชาสังคม และภาคสื่อสารมวลชน สร้างให้เกิดคำว่า “ทีม (TEAMWORK)” และเสริมสร้างความเข้มแข็งของทีมงาน เพื่อให้เป็นทีมที่ลงไปช่วยเหลือการบูรณาการขับเคลื่อนงานเพื่อแก้ไขปัญหา ขจัดความทุกข์ยาก และทำให้เกิดการเพิ่มพูนความสุขให้กับคนในหมู่บ้านที่ต้องได้รับการพัฒนาควบคู่ไปกับการขับเคลื่อนเสริมสร้างความเข้มแข็งของหมู่บ้านที่ประชาชนมีความกินดีอยู่ดีอยู่แล้ว ให้มีความสุขอย่างต่อเนื่อง โดยมี “ผู้นำ” ทั้งท่านผู้ว่าราชการจังหวัด ท่านนายอำเภอ ปลัดอำเภอ หมั่นลงพื้นที่ไปติดตาม ไปดูว่าพี่น้องประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี หรือต้องได้รับการช่วยเหลือการพัฒนาในด้านใดเพิ่มเติมบ้าง

นายสุุทธิพงษ์ กล่าวว่า ในวันนี้ เป็นการมาเยี่ยมเยียนให้กำลังใจท่านนายอำเภอสันทราย ท่านกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นายกเทศมนตรีตำบลสันทรายหลวง และพี่น้องประชาชนทุกท่าน และมาร่วมทำบุญกับทุกท่านด้วย ซึ่งต้องขอชื่นชมและแสดงความยินดีกับทุกท่านที่พื้นที่เทศบาลตำบลสันทรายหลวง นอกจากมีท่านนายอำเภอเป็นผู้นำการขับเคลื่อนบูรณาการพัฒนาในภาพรวมอำเภอแล้ว ยังมีท่านนายกเทศมนตรีตำบลสันทรายหลวง คือ ท่านนายกนที ดำรงค์ เป็นผู้นำคนสำคัญที่มีจิตใจที่รุกรบ มีความปรารถนา มี Passion ในการทำให้สันทรายหลวงเป็นชุมชนแห่งความสุขด้วยพลังการมีส่วนร่วมของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ สะท้อนผ่านสภาพบ้านเมืองที่มีถนนหนทางสะอาด มีลำน้ำโจ้ที่มีน้ำใสสะอาด ได้รับการบำบัดคุณภาพให้สะอาดอย่างต่อเนื่อง บ้านเรือนของพี่น้องประชาชนมีการทำระบบบำบัดน้ำเสีย ปรับเปลี่ยนหลังบ้านเป็นหน้าบ้านน่ามอง ผู้คนต่างอิ่มเอิบไปด้วยสีหน้าแห่งความสุขเพราะได้ทำบุญ มีจิตใจที่เมตตา ใจบุญสุนทานรักใคร่ในหมู่เพื่อนพ้องญาติมิตร ดังพุทธวจนะที่ว่า “วิสฺสาสปรมา ญาติ” อันหมายถึง ความคุ้นเคย เป็นญาติอย่างยิ่ง ซึ่งนับว่าท่านนายกเทศมนตรีตำบลสันทรายหลวง เป็นหนึ่งในราชสีห์กระทรวงมหาดไทยผู้มีใจเสียสละ และมุมานะที่จะสร้างสรรค์ประโยชน์ สร้างสรรค์สิ่งดี ๆ ให้เกิดขึ้นในพื้นที่” นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าว

นายสุทธิพงษ์ กล่าวต่ออีกว่า ด้วยความเสียสละ ความมุ่งมั่นทุ่มเทของชาวมหาดไทยทุกคน จึงทำให้สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ องค์ปฐมเสนาบดีกระทรวงมหาดไทย กำหนดสีประจำกระทรวงมหาดไทย คือ “สีดำ” เปรียบประดุจดั่งสีพระศอของพระศิวะที่กลืนน้ำอมฤตเพื่อปกป้องมวลมนุษยชาติจนกลายเป็นปานสีดำ ซึ่งเป็นเครื่องย้ำเตือนให้ชาวมหาดไทยทุกภาคส่วน ทั้งข้าราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้บริหาร อปท. ทุกคน มีความตั้งใจในการทำหน้าที่เพื่อ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” พี่น้องประชาชน เสริมสร้างพลังบวกแห่งการรู้รักสามัคคี การมีส่วนร่วม อาทิ ในด้านการส่งเสริมคุณภาพของสิ่งแวดล้อมในชุมชน ได้มีการออกระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยอาสาสมัครท้องถิ่นรักษ์โลก พ.ศ. 2561 โดยได้กำหนดแนวทางการรวมกลุ่มของอาสาสมัครท้องถิ่นรักษ์โลก หรือ “อถล.” ซึ่งเป็นผู้ที่มีจิตอาสาในการช่วยเหลืองานเกี่ยวกับการจัดการสิ่งปฏิกูลและมูลฝอย การปกป้องและรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

“สิ่งสำคัญในการขับเคลื่อนหมู่บ้านยั่งยืน คือ “ผู้นำ” ที่จะต้องมี “ใจ” ในการมุ่งมั่น ทุ่มเท ซึ่งผู้นำมิได้หมายความเพียงแต่ท่านนายอำเภอ หรือท่านนายกเทศมนตรี แต่หมายความรวมถึงทุกคนที่นั่งชุมนุมเสวนากันอยู่ที่นี่ ทั้งท่านกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน สารวัตรกำนัน แพทย์ประจำตำบล ชรบ. อส. และทุกคน เป็น “ผู้นำ” แทบทั้งสิ้น เพื่อที่จะทำให้หมู่บ้านของพวกเราทุกคน เป็นหมู่บ้านที่มีผู้คนมีความรักใคร่ ความเอ็นดู ความสามัคคี ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ช่วยกันสร้างสิ่งที่ดี ทั้งการน้อมนำพระราชดำริ “บ้านนี้มีรักปลูกผักกินเอง” เพื่อสร้างความมั่นคงด้านอาหาร ด้วยการปลูกผักสวนครัว การเลี้ยงเป็ด เลี้ยงไก่ เลี้ยงกบ เลี้ยงปลา เพื่อสามารถ “พึ่งพาตนเอง” และเมื่อมีเพียงพอก็สามารถแจกจ่ายแบ่งปันให้กับเพื่อนสมาชิกในชุมชนอีกด้วย จึงขอให้ทุกท่านได้ปลุกพลังแห่งการเป็น “ผู้นำ” มาร่วมกันดูแลรักษาชุมชนหมู่บ้านของพวกเรา ช่วยกัน “สร้างระบบ” ในการดูแลสุขภาพของพี่น้องประชาชนให้ดี มีพืชผักสมุนไพรกิน ไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด รักษาความสะอาด ออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ ช่วยกันในการทำให้มีหลุมขนมครก มีฝายชะลอน้ำ ฝายแม้ว มีแนวกันไฟ ช่วยกันปลูกไม้ยืนต้น ปลูกพืชคลุมดิน ไม่จุดไฟเผาป่า เพื่อป้องกันไฟป่า ทำให้พื้นที่สันทรายหลวง และพื้นที่อำเภอสันทราย เป็นพื้นที่แห่งความสุข พื้นที่แห่งความช่วยเหลือเกื้อกูลกัน อันจะทำให้เกิดสังคมที่ผู้คนมีแต่ความรักใคร่ และเป็นสังคมที่พัฒนาอย่างยั่งยืน และเป็นต้นแบบการเป็น “หมู่บ้านยั่งยืนเฉลิมพระเกียรติฯ”” นายสุทธิพงษ์กล่าวในช่วงท้าย

จากนั้น ปลัดกระทรวงมหาดไทย และคณะ ได้ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนครัวเรือนตกเกณฑ์ จปฐ. ปี 2565 ข้อ 22 รายได้เฉลี่ยของคนในครัวเรือนต่อปี ในพื้นที่หมู่ที่ 3 ตำบลสันทรายหลวง อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ ได้แก่ 1) ครัวเรือนนางบุญปั๋น สุนันต๊ะพันธ์ ซึ่งมีสมาชิก 2 คน ตนเองอายุ 82 ปี ไม่มีอาชีพ มีรายได้จากเงินสวัสดิการต่าง ๆ ของรัฐ และอีกคนหนึ่ง อายุ 17 ปี กำลังศึกษาวิทยาลัยเทคนิคเชียงใหม่ 2) ครัวเรือนนางสาวศรีเพ็ญ ใหม่ตาคำ อายุ 79 ปี อยู่ตามลำพัง ไม่มีอาชีพ เป็นผู้ป่วยติดเตียง มีรายได้จากเงินสวัสดิการต่าง ๆ ของรัฐ และมีปัญหาด้านสุขภาพ

3) ครัวเรือน นายสว่าง ศรีคงยศ อายุ 87 ปี ไม่มีอาชีพ เป็นผู้ป่วยติดเตียง มีรายได้จากเงินสวัสดิการต่าง ๆ ของรัฐ และสมาชิกอีก 2 คน คนหนึ่งอายุ 86 ปี ไม่มีอาชีพเป็นผู้สูงอายุเป็นโรคอัลไซเมอร์ มีรายได้จากเงินสวัสดิการต่าง ๆ ของรัฐ และอีกคนหนึ่ง อายุ 56 ปี ไม่มีอาชีพ เป็นผู้พิการทางสมอง มีรายได้จากเงินสวัสดิการต่าง ๆ ของรัฐ และ 4) ครัวเรือน นางเครือวัลย์ แขกอ้อย อายุ 72 ปี ไม่มีอาชีพ มีรายได้จากเงินสวัสดิการต่าง ๆ ของรัฐ

ปลัดกระทรวงมหาดไทย ยังได้มอบทุนสนับสนุนในเบื้องต้น พร้อมทั้งกำชับนายอำเภอ และเน้นย้ำนายกเทศมนตรีตำบลสันทรายหลวง ได้หมั่นลงพื้นที่ติดตามการให้ความช่วยเหลือและพัฒนาคุณภาพชีวิตของครัวเรือนดังกล่าว รวมทั้งส่งเสริมการใช้ชีวิตแบบพึ่งพาตนเองตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เช่น การปลูกผักสวนครัวสร้างความมั่นด้านอาหาร การเลี้ยงเป็ด เลี้ยงไก่ เพื่อมีอาหารไว้บริโภคประหยัดค่าใช้จ่าย และประสานให้ รพ.สต. และ อสม. ลงพื้นที่ติดตามการรักษา และดำเนินการตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยที่เกี่ยวข้อง เพื่อดูแลให้พี่น้องประชาชนได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน

Message us