นายกเมืองพัทยาฟุ้งเข้ามา 7 เดือนทำงานคืบหน้าหลายโครงการ

เมื่อวันที่ 28 ธ.ค. นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา เปิดเผยว่า หลังจากได้รับเลือกตั้งเป็นนายกเมืองพัทยามากว่า 7 เดือน ได้ทำงานเพื่อสังคมอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะนโยบายที่ให้กับประชาชนไว้ ที่แบ่งออกเป็น 4 เป้าหมาย 15 นโยบาย โดยเป้าหมายหลักจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจของให้เมืองพัทยาดีขึ้น เพราะทราบกันดีว่าโรคโควิด-19 ที่ผ่านมาส่งผลให้เศรษฐกิจท่องเที่ยวถดถอยอย่างมาก จึงมีแผนในการการกระตุ้นด้วยการจัดอีเว้นท์ต่างๆ ตลอดทั้งปี เช่น งานพัทยามิวสิค เฟสติวัล หรืองานพลุนานาชาติ ซึ่งทุกโครงการก็ได้ปรึกษาหารือกับภาคเอกชนมาตลอด เพื่อให้ภาคเอกชนเข้ามาร่วมในการจัดงาน ซึ่งในเร็ววันนี้จะมีการจัดกิจกรรมพัทยาเค้าน์ดาวน์ และ งานเดินกินถิ่นนาเกลือ

ทั้งนี้ หวังว่าปีหน้าเศรษฐกิจของเมืองพัทยาจะดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมาแน่นอน ปัญหาที่ต้องเร่งดำเนินการในเรื่องที่ 2 คือการแก้ปัญหาน้ำท่วม ซึ่งการดำเนินการโครงการต่าง ๆไม่ว่าจะเป็นโครงการหลัก เช่น การก่อสร้างวางท่อระบายริมถนนเลียบทางรถไฟขนาด 1.8 เมตรเพื่อรับน้ากฝั่งตะวันออกไหลเข้าสู้คลองธรรมชาติลดปัญหาที่น้ำจะไหลเข้าสู่เมืองพัทยาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งกำลังเร่งดำเนินการ และปัญหาเรื่องของการดูแลเรื่องความสะอาดตาม “นโยบายสะอาดก่อนสว่าง” ซึ่งแต่เดิมอย่างปัญหาโควิด-19 ระบาด เมืองพัทยาจะมีปริมาณขยะ 500 ตัน/วัน ขณะที่ในช่วงโควิดลดการระบาด ปริมาณขยะจะเหลือเพียง 200 กว่าตันเท่านั้น และไม่เกิดปัญหาขยะตกค้างแน่นอน

สำหรับ เรื่องการศึกษาก็เป็นเรื่องสำคัญที่เมืองพัทยาดำเนินการมาตลอด ส่วนนโยบายลดภาระของผู้ปกครองโดยการจัดรถบัสรับส่งนักเรียน การจัดตั้งโรงเรียนต้นแบบที่โรงเรียนเมือง 11 ซึ่งจะ MOU กับสถาบันราชวิทยาลัยฯ ที่จะให้ทุนแก่เด็กไปเรียนแพทย์ และพยาบาล สุดท้ายเรื่องถนนหนทาง ซึ่งเป็นปัญหาที่มีการพูดกันมากที่สุด โดยเฉพาะการขุดเจาะบนถนนหลายเส้นทาง เรื่องนี้ได้ก็พยายามได้คุยกับผู้รับเหมาไปแล้วว่า ต่อไปนี้ในการทำ TOR ให้ไปลอกแบบการทำของกรุงเทพมหานคร ในการระบุข้อตกลงที่จะจ้างผู้รับเหมามาทำถนนเสน้ทางต่างๆ โดยเน้นว่า ต้องมีมาตร ฐานความปลอดภัย มีการติดสัญญาณเตือนว่าข้างหน้ามีการก่อสร้างร่วมถึงไฟฟ้าแสงสว่างให้เพียงพอ

นายกเมืองพัทยา กล่าวถึงนโยบายเรื่องสมาร์ทซิตี้ว่า เมืองพัทยาดำเนินการมาตลอดเพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว โดยทุ่มงบประ มาณในการติดตั้งกล้องวงจรปิดทั่วพื้นที่จำนวนกว่า 2,000 จุด แต่ปัจจุบันสามารถใช้งานได้กว่าไม่ถึงครึ่ง ด้วยระยะเวลาและการเสื่อมสภาพ เรื่องนี้ทางสภาเมืองพัทยามีมติให้เช่าให้ว่าจ้างเอาท์ซอร์ทมาดูแล และได้ตั้งงบประมาณไปแล้ว แต่ต้องรอการอนุมัติจากจังหวัดชลบุรี เนื่องจากทางจังหวัดมองว่า การเช่าซื้ออาจจะไม่คุ้มค่ากับการซื้อมาติดตั้งเอง ส่วนอีกเรื่องคือการสร้างที่จอดรถบริเวณตลาดเก่าลานโพธิ์ที่มีแปลนจะก่อสร้างแล้วเสร็จภายใน 2566 ซึ่งโรงจอดรถนี้จะทำให้ผู้ที่จะมาซื้อของในตลาดได้รับความสะดวกมากขึ้น

ขณะที่ การปรับภูมิทัศน์สวนสาธารณะที่มีเรื่องของสะพานนาเกลือที่จะทอดยาวออกมาจากลานโพธิ์เข้ามาทางสะพานยาว ในสภาเมืองพัทยาได้อนุมัติงบประมาณเรียบร้อยแล้ว โดยได้ส่งเรื่องไปถึงกรมเจ้าท่าจนพบว่ามีปัญหาว่า ในส่วนของผู้มีกรรมสิทธิ์ริมทะเลทั้งหมด 15 ราย ซึ่งผลกาเจรจามีเจ้าของ 11 รายพร้อมจะมาเซ็นอนุญาตต่อที่เหลือก็คาดว่าจะให้ความร่วมมือในการพัฒนาป็นอย่างดี ประเด็นสำคัญคือปัญหาค้างคามานานหายสิบปีอย่างการก่อสร้างสนามฟุตบอลเมืองพัทยา หรือศูนย์กีฬาแห่งชาติภาคตะวันออก ภายในซอยชัยพฤกษ์ 2 ซึ่งที่ผ่านมามักจะมีปัญหาผู้รับเหมาทิ้งงาน โดยก็ได้ทำการเปรียบเทียบปรับตามกฎหมาย โดยเมืองพัทยาได้เร่งมีการจัดทำ TOR ขึ้นใหม่แล้วซึ่งครอบคลุมและหมดปัญหาเรื่องการละทิ้งงานอีกแน่นอน และขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนของการสรรหาผู้รับจ้างใหม่ที่มีศักยภาพ จึงอยากให้ประชาชนทราบว่าตลอดระยะเวลที่ผ่านมา แม้จะเพียงระยะสั้นๆเมืองพัทยาไม่เคยนิ่งนอนใจและพยายามพัฒนางานให้แล้วเสร็จสมบูรณ์ตามแผนที่วางไว้ตามระยะเวลาที่กำหนดแน่นอน

ข่าว/ภาพ : ชัยยศ ผู้พัฒนพงษ์

Message us