เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม สวนทุเรียนของนายสังคม ล้อมกระโทก วัย 58 ปี ปลูกทุเรียนเอาไว้จำนวน 3 ไร่ ในพื้นที่บ้านหนองมะค่า ต.แชะ อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ภายในสวนลุงคม ตอนนี้กำลังให้ผลผลิตเตรียมที่จะตัดขายให้กับลูกค้าแล้ว โดยสวนแห่งนี้เป็นสวนทุเรียนแห่งแรกที่เปิดใช้สแกน “เราตัดแก่ เพราะแคร์คุณ” ถือเป็นสวนทุเรียนที่สร้างความมั่นใจให้กับกลุ่มลูกค้า เป็นอย่างมาก และจะมีลูกค้าขาประจำที่ชื่นชอบในรสชาติของทุเรียนครบุรี ซึ่งเป็นทุเรียนคุณภาพในพื้นที่ภาคอีสานโดดเด่นในเรื่องของกลิ่นที่อ่อนกว่าทุเรียนภาคอื่น แต่รสชาติอร่อยไม่แพ้ที่อื่นเช่นเดียวกัน ล่าสุดตอนนี้ทางสวนได้เริ่มเปิดให้ลูกค้าเข้ามาจองทุเรียนกันถึงสวนแล้ว ทั้งแบบจองเป็นลูกและจองเป็นต้น ก็เริ่มมีลูกค้าทยอยสั่งจองอย่างต่อเนื่อง คาดว่าทุเรียนในสวนลุงคมน่าจะเริ่มตัดได้ในช่วงกลางเดือนพฤษภาคมนี้
นายสังคม ล้อมกระโทก เจ้าของสวนทุเรียน เปิดเผยว่า จากสภาพอากาศที่แปรปรวนกว่าทุกๆปี ในพื้นที่อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ส่งผลทำให้ทำเรียนของชาวสวนเกือบทุกสวน ติดผลได้น้อยกว่าปกติเกือบเท่าตัว เนื่องจากดอกทุเรียนบางต้นร่วงหล่นเสียหายจากสภาพอากาศที่เดี๋ยวร้อน เดี๋ยวหนาว เดี๋ยวฝน ทำให้ทุเรียนปรับสภาพไม่ทัน ปริมาณการติดผลจึงลดลง เช่นที่สวนแห่งนี้ ปีนี้หากได้ทุเรียนถึง 1,000 ลูก ก็ถือว่าน่าพอใจมากแล้ว แม้ว่าทุกปีจะได้ทุเรียนมากเกือบ 2,000 ลูกก็ตาม
สำหรับ สวนลุงคมตอนนี้มีทุเรียนหลากหลายพันธุ์ ทั้งหมอนทอง ชะนี ก้านยาว รวมถึง มูซังคิงในปีนี้ให้ผลผลิตเพียงต้นเดียวไม่ถึง 20 ลูก ตอนนี้ถูกสั่งจองทั้งต้น ในราคากิโลกรัมละ 350 บาท ในขณะที่ทุเรียนหมอนทองธรรมดาจะอยู่ที่กิโลกรัมละ 150 บาท
ข่าว/ภาพ : ประสิทธิ์ ตั้งประเสริฐ ผู้สื่อข่าวจังหวัดนครราชสีมา
