ทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ไฮบริดสแกมตุ๋นลงทุนเทรดทองสั่งการจากคาสิโน”คิงส์โรมัน”

เมื่อวันที่ 22 มิ.ย. ที่ อาคารประชาอารักษ์ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ต.อธิป พงษ์ศิวาภัย ผบก.ปอท., พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รอง ผบก.ปอท. พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ ผกก.2 บก.ปอท. พ.ต.ท.นิธิ ตรีสุวรรณ รอง ผกก.2 บก.ปอท. ร่วมกันแถลงผลการจับกุมเครือข่ายหลอกลงทุน-คอลเซ็นเตอร์ชาวจีน หลังจับกุมนายเถิง จวิ้น (Mr.Teng Jun) อายุ 32 ปี สัญชาติจีน หัวหน้าขบวนการ น.ส.หงษ์ ลุงต๊ะ อายุ 25 ปี บุคคลไร้สัญชาติ นายนพดล กองสอน อายุ 32 ปี และ พวกอีก 8 ราย พร้อมของกลาง รถยนต์หรู จำนวน 3 คัน, เงินสด รวมกว่า 5 ล้านบาท, สร้อยคอทองคำ แหวน กว่า 30 รายการ, นาฬิกาหรู และกระเป๋าแบรนเนมด์, คอมพิวเตอร์, โน๊ตบุ๊ก, โทรศัพท์มือถือ, ซิมการ์ด, สมุดบัญชีธนาคาร และใบรับประกันทอง อีกจำนวนหลายรายการ โดยจับกุมตัว นายเถิง ได้ที่บ้านพักแขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กทม. ส่วน ลูกสมุนชาวไทยที่เหลือจับกุมได้ในพื้นที่ จ.เชียงราย และ จ.จันทบุรี

พล.ต.ต.อธิป กล่าวว่า เนื่องจากได้รับการร้องเรียนจากทางสำนักทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ว่ามีกลุ่มมิจฉาชีพนำชื่อสำนักทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ไปแอบอ้างเปิดเว็บไซต์หลอกลวงประชาชนให้นำเงินมาลงทุนหุ้นทองคำ โดยใช้ชื่อเว็บไซต์ว่า Royal Gold เฉพาะเพียงเพียงแค่ช่วงเดือน ม.ค. ถึง พ.ค. 2566 มีผู้หลงเชื่อตกเป็นเหยื่อสูญเงินรวมกว่า 500 ล้านบาท จากการตรวจสอบพบมีการทำกันเป็นขบวนการ ตั้งแต่ระดับหัวหน้าเครือข่าย คือ นายเถิง ชาวจีน มีหน้าที่ควบคุมสั่งการศูนย์ปฏิบัติการของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ของบ่อนคาสิโน “คิงส์โรมัน” ใน สปป.ลาว ลงไปจนถึงคนรวบรวมบัญชีม้าและคนรับจ้างเปิดบัญชีม้า และ กลุ่มที่ทำหน้าที่ฟอกเงิน

พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ กล่าวว่า สำหรับวิธีการหลอกลวง จะใช้บัญชีเฟซบุ๊กปลอมเป็นหญิงสาวหน้าตาดี ทำทีตีสนิทเหยื่อในเชิงชู้สาว ก่อนชักชวนให้นำเงินร่วมลงทุนหุ้นทองคำผ่านเว็บไซต์ Royal Gold ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่จัดทำขึ้นมา มีลักษณะคล้ายเว็บไซต์เทรดหุ้น มีกราฟแสดงมูลค่าของหุ้นตลอดเวลา ทั้งยังมีการแอบอ้างว่าเว็บไซต์ดังกล่าวเป็นเว็บไซต์ลงทุนในหุ้นทองคำที่เกี่ยวข้องกับสำนักทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ โดยช่วงแรกของการลงทุนมีการจ่ายผลตอบแทนจริง คิดเป็นร้อยละ 10 ของเงินลงทุน แต่เมื่อเหยื่อต้องการจะถอนเงินกลับคืนกลับไม่สามารถทำได้ อ้างต้องเสียค่าภาษีหรือค่าดำเนินการอื่นๆ เพื่อหลอกให้เหยื่อโอนเงินให้เพิ่มอีก ก่อนจะตัดขาดการติดต่อไปในที่สุด

พ.ต.อ.เนติ กล่าวว่า เงินที่ได้จากการหลอกลวงผู้เสียหายทั้งหมดจะถูกนำไปซื้อเหรียญดิจิทัล (Cryptocurrency) ในสกุล USDT จากพ่อค้าคนกลาง จากนั้นจะมีการโอนเหรียญดิจิทัลดังกล่าวเข้าไปยังกระเป๋าวอลเล็ตม้า ก่อนที่จะเริ่มเข้าสู่กระบวนการฟอกเงินในรูปแบบเหรียญดิจิทัล เพื่อทำการซื้อขายแปลงกลับมาเป็นเงินบาทเพื่อส่งต่อให้กับหัวหน้าเครือข่าย

“นอกจากนี้ยังพบอีกว่า กลุ่มคนที่รับจ้างเปิดบัญชีม้าและกระเป๋าวอลเล็ตม้า ส่วนใหญ่มีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่ จ.เชียงราย ได้รับค่าตอบแทนเป็นเงิน ประมาณ 3,000 – 4,000 บาท โดยกลุ่มผู้จัดหาและว่าจ้างจะเตรียมโทรศัพท์พร้อมซิมการ์ดมาให้กลุ่มผู้รับจ้างทำการยืนยันตัวตน (KYC) เพื่อเปิดบัญชีธนาคารพร้อมกับกระเป๋าแลกเปลี่ยนเงินดิจิทัล (Wallet) หลังจากนั้นจะรวบรวมบัญชีม้าพร้อมโทรศัพท์มือถือที่ผูกกับกระเป๋าม้านำไปส่งให้กับนายทุนชาวจีนที่มีฐานปฏิบัติการอยู่ที่ สปป.ลาว ซึ่งหลังสืบทราบข้อมูลขบวนการดังกล่าวแล้วนั้นทางเจ้าหน้าที่จึงเร่งรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับและติดตามจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องตั้งแต่ ระดับหัวหน้าเครือข่าย, ผู้บริหารดูแลเรื่องฟอกเงิน และผู้รวบรวมบัญชีม้า และ กลุ่มของผู้จัดหาและรวบรวมบัญชีม้า,กระเป๋าวอลเล็ตม้า ได้จำนวน 11 รายพร้อมของกลางดังกล่าว” พ.ต.อ.เนติ กล่าว

ด้าน พ.ต.ท.นิธิ กล่าวว่า จากการสอบสวน หนึ่งในผู้ต้องหาที่ทำหน้าที่จัดหาและรวบรวมบัญชีม้า ให้การรับว่าตนเองได้รับการว่าจ้างมาจากนายทุนชาวจีน ให้รวบรวมบัญชีม้าและกระเป๋าวอลเล็ตม้าของคนไทย มาส่งมอบให้กับชาวจีนที่อยู่ในพื้นที่ของบ่อนคาสิโนคิงส์โรมัน ฝั่ง สปป.ลาว ซึ่งเป็นที่ตั้งของฐานปฏิบัติการ โดยตนจะได้รับค่าจ้างประมาณ 10,000 บาท ต่อบัญชี เหตุผลที่รับจ้างทำงานในลักษณะนี้ เนื่องจากมีหนี้สินที่เกิดจากการเล่นพนันในบ่อนคาสิโนคิงส์โรมัน และนายทุนชาวจีนดังกล่าวเป็นคนภายในบ่อนคาสิโน จึงถูกบังคับให้รับงานดังกล่าว

พ.ต.ท.นิธิ กล่าวอีกว่า แม้จะจับกุมหัวหน้าขบวนการชาวจีนพร้อมลูกสมุนคนไทย ได้ 11 รายแล้วนั้น แต่ก็ยังคงต้องขยายผลต่อเนื่อง เพราะยังเหลือผู้ต้องหาที่อยู่ระหว่างการติดตามตัวอีก 5 ราย แบ่งเป็นชาวจีนระดับผู้บริหาร จำนวน 3 ราย ประกอบด้วย นายชิวเตอร์อู่ (MR.QIU DEWU) อายุ 45 ปี นายชิว เตอร์ชง (MR.QIU DECONG) อายุ 36 ปี และ นายจาง จื่อหงส์ (MR.ZHANG ZHIHONG) อายุ 22 ปี และ คนไทย ที่ทำหน้าที่ในกลุ่มของบัญชีม้าจำนวน 2 ราย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างเร่งดำเนินการแกะรอยติดตามตัว ส่วนผู้ต้องหาทั้ง 11 รายที่จับกุมได้นั้น เบื้องต้นจะถูกดำเนินคดีในความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น,ร่วมกันทุจริต หรือ หลอกลวง โดยการนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ และร่วมกันฟอกเงิน” ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ปอศ.ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

Message us