ตำรวจปทส.แจ้ง 4 ข้อหาบริษัทครอบครองกากแคดเมียม

เมื่อวันที่ 18 เมษายนพล.ต.ต.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ ผบก.ปทส. เปิดเผยถึงกรณีที่นายเจษฎา เก่งรุ่งเรืองชัย กรรมการ บริษัท เจ แอนด์ บี เมททอล จำกัด ได้เข้าพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียกครั้งที่ 2 ตั้งแต่ 08.30 น. โดยมาพร้อมกับทนายความและภรรยาเบื้องต้นนายเจษฎาเข้าพบกับพนักงานสอบสวนรวมถึงการร้องทุกข์ของอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร เพื่อเตรียมข้อมูลมาชี้แจงในภายหลัง

พล.ต.ต.วัชรินทร์กล่าวว่า จากการคุยนอกรอบนายเจษฎาเปิดเผยเบื้องต้นว่า การซื้อขายกากแคดเมียมมีการทำสัญญากับบริษัท เบาด์ แอนด์ บียอนด์ จำกัด ซึ่งขายให้ตามน้ำหนัก กิโลกรัมละ 1.25 บาทโดยในสัญญาบริษัท เจ แอนด์ บี เมททอล เป็นผู้ซื้อที่จะรับไปกำจัด

ทั้งนี้ นายเจษฎายอมรับว่า ตอนแรกจะพยายามส่งออกไปหลอมที่สสปป.ลาวโดยมีคนจีนรอรับซื้อ ที่ลาวมีบริษัทที่สามารถ แยกแคดเมียม ทองแดง และสังกะสีได้ แต่ปรากฏว่า ก่อนหน้ามีนายจางติดต่อเข้ามาซื้อกากแคดเมียม 5 พันตัน จึงขายให้กิโลกรัม 8.25 บาท นายจางได้ส่งรถมารับเพื่อนำไปไว้ที่ จ.ชลบุรี ละยังพบว่านายจางยังพยายามขายต่อให้คนอื่นอีกที แต่ไม่ให้นายเจษฎารู้ว่า ขายให้ใคร ส่วนล็อตที่จะส่งไปสปป.ลาวยังไม่มีการตกลงที่แน่ชัดและประเมินราคาไม่น่าจะต่ำกว่ากิโลกรัมละ 8.25 บาทแน่นอน

พล.ต.ต.วัชรินทร์ ยืนยันว่า การที่บริษัท เจ แอนด์ บี เมททอล นำไปขายต่อถือว่า ผิดวัตถุประสงค์ในสัญญาซื้อขายเพราะบริษัทมีใบอนุญาตกำจัด และสัญญาซื้อขายก็ระบุว่าซื้อมากำจัด โดยนายเจษฎาให้ดูรูปยืนยันว่า มีเครื่องมือในการกำจัด โดยซื้อมาจากประเทศอังกฤษแต่ตอนนี้เครื่องมือ อยู่ระหว่างซ่อมแซมทำให้ไม่สามารถกำจัดได้ พนักงานสอบสวนต้องไปดูเครื่องจักรดังกล่าว แต่เชื่อว่า วัตถุประสงที่ซื้อมาจากบริษัท เบาด์ แอนด์ บียอนด์ จำกัด นั้นจะซื้อมาเพื่อขายต่อมากกว่ากำจัดกันแน่ ส่วนที่บริษัท เจ แอนด์ บี เมททอล ต้องนำกากแร่ไปฝากโกดังอื่นๆ ที่ไปพบก่อนหน้านี้นายเจษฎา ให้การว่า ที่จัดเก็บไม่เพียงพอ จึงต้องนำไปจัดเก็บที่อื่นส่วนจะมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้ามาเกี่ยวข้องหรือไม่จำเป็นที่ต้องสอบในทางลึกอีกที

เมื่อถามว่า การขออนุญาตให้ขนกากแคดเมียมจากจ.ตาก 13,800 ตันทั้งที่ปลายทางไม่มีพื้นที่จัดเก็บเพียงพอ หน่วยงานไหนต้องตรวจสอบ ระหว่างอุตสาหกรรมจังหวัดตากต้นทางหรืออุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาครปลายทาง พล.ต.ต.วัชรินทร์ ยืนยันว่า ต้องเป็นปลายทาง โดยเมื่อขนย้ายมาถึงจังหวัดสมุทรสาครแล้วก็เป็นหน้าที่ของอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาครต้องเข้าไปตรวจสอบ โดยนายเจษฎาให้การว่า อุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาครเคยเข้ามาตรวจสอบแล้วหนึ่งครั้ง

อย่างไรก็ตาม การที่อุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาครมาตรวจแล้ว แต่จำนวนกากแร่ไม่ตรงกับที่มีการสำแดงไว้จะเข้าข่ายละเลยหรือไม่ เรื่องนี้ต้องมีการตรวจสอบ โดยกระทรวงอุตสาหกรรมได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบแล้ว ส่วนตำรวจก็สืบสวนไปด้วยในทางข้าง และจะนำข้อมูลไปเทียบเคียงกับของกระทรวง หากบก.ปทส.พบเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องก็จะส่งเรื่องให้ปปป. โดยตอนนี้ได้ประสานให้กับปปป.เรียบร้อยแล้ว หากเจอก็จะให้ดำเนินการไปควบคู่กับคดีอาญาของบก.ปทส. นอกจากนี้ได้มีการประสานงานกับประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.)การอุตสาหกรรมในทางลับอยู่แล้ว

พล.ต.ต.วัชรินทร์ กล่าวว่า นายเจษฎายืนยันว่าการขนกากแคดเมียมไม่มีการจ่ายเงินให้เจ้าหน้าที่รัฐ ส่วนกระแสข่าวที่ว่าเจ้าหน้าที่รัฐระดับรองอธิบดีเกี่ยวข้องตอนนี้ยังไม่มีข้อมูล ส่วนการกล่าวหาใครต้องมีข้อมูลที่ชัดเจน

เมื่อถามว่าจากการตรวจสอบบริษัทต้นทางบริษัท เบาด์ แอนด์ บียอนด์ จำกัดพบความผิดอะไรบ้างหรือไม่ พล.ต.ต.วัชรินทร์ กล่าวว่า บริษัทต้นทางต้องรับผิดชอบตามประกาศกระทรวง ปี 66 และผู้ก่อมลพิษก็ต้องรับผิดชอบหากก่อมลพิษ ส่วนการขนย้ายยังไม่พบว่าบริษัท เบาด์ แอนด์ บียอนด์ มีความผิดในตอนนี้ เพราะในสัญญาซื้อขายระบุชัดว่า ให้ เจ แอนด์ บี เมททอล จำกัด รับผิดชอบทั้งหมดทั้งเรื่องการประสานงานเจ้าหน้าที่การขนย้ายการขอ EIA ผู้ขายจะไม่รับผิดชอบโดยให้วางเงินมัดจำไว้ประมาณ 10 ล้านบาท หากมีความเสียหาย ส่วนเรื่องการตั้งข้อสังเกตว่า บริษัท เบาด์ แอนด์ บียอนด์ ฝ่าฝืน EIA หรือไม่เนื่องจากขุดกากแร่ขึ้นมานั้น ตำรวจยังไม่ได้ดูตรงนี้เพราะการกำหนด EIA เป็นเรื่องของกรมควบคุมมลพิษ

เมื่อถามว่า กระทรวงการคลังถือหุ้น ในบริษัท เบาด์ แอนด์ บียอนด์ แต่บริษัท เบาด์ แอนด์ บียอนด์ ไม่มีความผิดนั้นจะเกิดข้อครหาหรือไม่ พล.ต.ต.วัชรินทร์ กล่าวว่า เรื่องนี้ มีหนังสือไปถึงอุตสาหกรรมจังหวัดตาก ให้พิจารณาว่า เบาด์ แอนด์ บียอนด์ มีความผิดอะไรบ้าง หากพบความผิดให้อุตสาหกรรมจังหวัดตากเป็นผู้ร้องทุกข์ กับพนักงานสอบสวนบก.ปทส. เนื่องจากตอนนี้ เบาด์ แอนด์ บียอนด์ ยังไม่มีความผิดทางอาญา ทำให้พนักงานสอบสวนยังไม่สามารถดำเนินการได้

พล.ต.ต.วัชรินทร์ กล่าวว่า ในวันนี้พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหานายเจษฎา ประกอบด้วย 4 คดี คือ 1.ที่ตั้งบริษัท เจแอนด์บี 132 หมู่ 2. ตำบลบางน้ำจืด อำเภอเมืองสมุทรสาครเป็นที่ตั้งของบริษัทใหญ่ จะมีความผิด ตาม พ.ร.บ.โรงงาน 2.ที่ตั้งบริษัท เจแอนด์บี 136/2 หมู่ 2. ตำบลบางน้ำจืด อำเภอเมืองสมุทรสาคร มีความผิด ข้อหา ครอบครองวัตถุอันตราย เนื่องจากสถานที่แห่งนี้ไม่ได้อยู่ในใบอนุญาตเป็นปลายทางของกากแคดเมียม

3.มีความผิด ข้อหา ร่วมกันครอบครองวัตถุอันตราย กรณีที่ได้ทำสัญญากับโกดังเลขที่ 70/2 ม.7 ต.คลองมะเดื่อ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ของนายหนุ่ม ในการเก็บเช่าโกดังเก็บกากแคดเมียม และ 4.ความผิด ข้อหา ครอบครองวัตถุอันตราย กรณีเป็นกรรมการบริษัท ล้อโลหะไทย แมททอล จำกัด ย่านบางซื่อที่นำกากแคดเมียมมาฝากไว้

ด้าน นายเจษฎา ให้สัมภาษณ์ยืนยันว่า ตนเองทำถูกต้องทุกขั้นตอน ตั้งแต่ต้นทางมาถึงปลายทาง และบริษัทเจแอนด์ลี เป็นโรงหลอมโรงหล่อ ก็ไปประมูลกากอุตสาหกรรมมา เพื่อนำขาย และตนเองต้องการสังกะสี กับทองแดง แต่แคดเมียม เป็นองค์ประกอบที่ไม่ได้อันตรายมาก

ทั้งนี้ ที่ต้องนำไปฝากตามจุดต่าง ๆ เพราะมีจำนวนมากจึงต้องไปเช่าโกดัง และตนเองเป็นพ่อค้า นอกจากเอามากำจัดแล้ว แต่เมื่อหมุนเงินไม่ทัน จึงแบ่งเอาไปขายบ้าง ก็คือการขายให้นายจาง โดยยอมรับผิดว่า เป็นการนำไปขายต่อโดยไม่ถูกต้องเพราะยังไม่ได้รับอนุญาตให้ขายต่อ แต่ยอมรับว่า เตรียมนำไปขายต่อที่ประเทศลาวด้วย อยู่ระหว่างการขออนุญาตตามสัญญาบาเซล และกากอุตสหกรรมที่เจอทั้งหมดนั้น เจอครบทั้งหมดแล้ว ขอยืนยันว่า การทำธุรกิจของตนเอง ไม่มีใครอยู่เบื้องหลัง เพราะตนเองทำธุรกิจนี้มากว่า 40 ปีแล้ว และไม่มีการเมืองใดๆมาเกี่ยวข้อทั้งสิ้น

Message us