เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม ที่รัฐสภา นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รักษาการรมช.คลัง ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าประชุม สส.พรรคเพื่อไทย ถึงการเดินหน้าโครงการดิจิทัลวอลเล็ต หลังนายเศรษฐา ทวีสิน พ้นตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ว่า ต้องให้เกียรติคนที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่และรัฐบาลชุดต่อไป ซึ่งกลไกตามรัฐธรรมนูญกำหนดแล้วว่า เมื่อมีการเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ และจัดตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) ขึ้นมาก็ต้องมีการแถลงนโยบายต่อสภาฯอีกครั้ง ซึ่งก็ต้องให้เกียรติว่าที่นายกรัฐมนตรีคนถัดไป ว่าจะบรรจุนโยบายอะไรเข้ามาบ้าง
ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทยหากมีการจัดตั้งรัฐบาลและเราร่วมด้วย ก็คงจะมีการเสนอนโยบายโครงการดิจิทัลวอลเล็ต แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการเจรจาด้วยว่าแต่ละฝ่ายจะมีความคิดเห็นอย่างไร และในฐานะที่ตนเป็นรักษาการรัฐมนตรีมีมติให้เดินหน้าโครงการนี้ ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ เรายังเดินหน้า ทำทุกอย่างตามกรอบของกฎหมายที่สามารถทำได้
เมื่อถามว่า มีความเป็นห่วงว่าโครงการนี้จะเดินหน้าต่อหรือไม่ นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ขอทำความเข้าใจให้ตรงกัน แอปทางรัฐ เป็นแอปพลิเคชั่นหลักในการให้บริการประชาชน ไม่ใช่แอปพลิเคชั่นสำหรับดิจิทัลวอลเล็ต หากท่านได้โหลดและลองใช้แล้ว จะเห็นว่ามีบริการของภาครัฐอยู่หลากหลาย มีความปลอดภัยอยู่ในระดับสูงสุดที่ภาครัฐกำหนด เรื่องของความปลอดภัยไม่ต้องห่วง และข้อมูลของท่านก็ไม่มีเก็บอยู่ในแอปทางรัฐ เป็นเพียงจุดเชื่อมไปหน่วยงานรัฐเท่านั้น ฉะนั้นเรื่องความปลอดภัยขอให้มั่นใจ 100%
“ไม่ว่าโครงการดิจิทัลวอลเล็ตจะเดินหน้าหรือไม่ เรื่องของแอปทางรัฐยังเป็นประโยชน์ของประชาชน ไม่ต้องไปลบหรือปั่นให้คนเป็นห่วง ส่วนรูปแบบการใช้ต้องรอดูหลังจากที่มีการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่” นายจุลพันธ์ กล่าว
เมื่อถามว่า ยังยืนยันใช่หรือไม่ว่าพรรคเพื่อไทยยังนำโครงการดิจิทัลวอลเล็ต เป็นนโยบายเรือธงเหมือนเดิม นายจุลพันธ์ กล่าวว่า นำไปหารือในการเจรจาในการร่วมรัฐบาล ซึ่งในการเจรจาแต่ละครั้งจะนำนโยบายมาวางไว้และพูดคุยกัน ว่านโยบายอะไรที่จะสามารถเดินหน้า หรือพิจารณาอย่างไร ตนไม่สามารถตอบได้มากกว่านี้
นายจุลพันธ์ กล่าวว่า การประชุมอนุกรรมการต่าง ๆ ก็ยังจะเดินหน้าต่อ เมื่อวานนี้ ( 14 ส.ค.) ได้มีการหารือกับปลัดกระทรวงการคลัง ตนก็ฝากให้ท่านประชุมต่อ และในช่วงบ่ายวันนี้ ( 15 ส.ค.) จะมีการประชุมครม.กัน เพื่อกำหนดกรอบวาระหน้าที่ว่ารักษาการ สามารถทำอะไรได้หรือไม่ได้อย่างไร ตนก็ต้องรอฟังในช่วงบ่ายวันนี้ และจะมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น โดยหลังจากนี้ก็จะมีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคด้วย ส่วนจะประชุมที่ใดนั้นต้องรอ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทยเป็นคนเรียกประชุม
