เมื่อวันที่ 17 มกราคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ถึงการดูแลราคาปาล์มน้ำมัน ว่า ในช่วง 2 สัปดาห์นี้ เกิดปัญหาที่เกษตรกรชาวสวนปาล์มไม่สามารถนำผลปาล์มขายที่ลานเทหรือโรงสกัดได้โดยสะดวก เพราะมีโรงสกัดบางโรงไม่รับซื้อหรือรับซื้อไม่ทัน เพราะปกติในช่วงสิ้นปีโรงสกัดจะปิดซ่อมเครื่องจักร ซึ่งเกือบทุกปีผลปาล์มออกน้อยในช่วงนี้ แต่ปีนี้ผลปาล์มทะลักออกมาเยอะมากในขณะที่โรงสกัดจำนวนหนึ่งปิดซ่อมทำให้เกิดปัญหา
ทั้งนี้ หลังจากนั้นตนสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดรวมทั้งทางจังหวัด กรมการค้าภายในและรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ลงไปช่วยแก้ปัญหาสั่งการให้ 1. โรงสกัดที่ปิดซ่อมให้รีบซ่อมให้เสร็จและเปิดรับซื้อโดยเร็ว 2. โรงไหนที่ยังไม่ปิดแล้วจะปิด ยังไม่อนุญาตให้ปิดซ่อม ต้องรับซื้อผลปาล์มในทันทีและโรงที่จะต้องปิดซ่อมต่อไปให้ทำแผนการปิดซ่อมแจ้งกระทรวงพาณิชย์และทางผู้ว่าราชการจังหวัดเพื่อพิจารณาอนุญาตเป็นรายกรณี ช่วยทำให้ตอนนี้สถานการณ์คลี่คลายและสั่งการให้ทางจังหวัดและพาณิชย์จังหวัดติดตามสถานการณ์โดยต่อเนื่อง ถ้าพบโรงสกัดและลานเทที่ใดไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง ให้ดำเนินคดีรวมทั้งให้ลงไปดูห้ามใช้กรณีปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นสาเหตุกดราคาปาล์มกับเกษตรกรไม่เช่นนั้นจะดำเนินคดีตามมาตรา 29 ข้อหาสร้างความปั่นป่วนทางด้านราคา มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปีหรือปรับไม่เกิน 140,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้สถานการณ์เริ่มคลี่คลายแล้ว โรงสกัดและลานเทเริ่มกลับมาซื้อผลปาล์ม เกือบเข้าสู่ภาวะปกติคาดว่าในสัปดาห์นี้ทุกอย่างน่าจะเข้าสู่ภาวะปกติได้ แต่ได้สั่งการให้ติดตาม สถานการณ์อีกระยะ เพื่อให้ทุกอย่างไม่เกิดปัญหาให้เกษตรกรขายผลปาล์มได้โดยปกติต่อไป โดยโรงสกัดทั้งหมดมี 131 โรง เปิดดำเนินการและรับซื้อครบแล้วทั้ง 131 โรง
