
เมื่อวันที่ 15 มีนาคม นายเวทางค์ พ่วงทรัพย์ เลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (BDE) ในฐานะโฆษกกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยว่า ผลการมอนิเตอร์และรับแจ้งข่าวปลอมของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ระหว่างวันที่ 7 – 13 มีนาคม 2568 พบข้อความที่เข้ามาทั้งหมด 831,525 ข้อความ โดยมีข้อความที่ต้องดำเนินการตรวจสอบ (Verify) ทั้งสิ้น 655 ข้อความ
ทั้งนี้ ช่องทางที่มีการพบเบาะแสมากที่สุด คือ ข้อความที่มาจาก Social Listening จำนวน 617 ข้อความ ตามมาด้วยการแจ้งเบาะแสผ่าน Line Official จำนวน 36 ข้อความ และผ่านชองทาง Facebook จำนวน 2 ข้อความ รวมเรื่องที่ต้องดำเนินการตรวจสอบทั้งหมด 206 เรื่อง และจากการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้รับผลการตรวจสอบกลับมาแล้ว 79 เรื่อง
กระทรวงดีอี ได้แบ่งข่าวปลอมที่ได้รับความสนใจเป็น 5 กลุ่ม ประกอบด้วย
กลุ่มที่ 1 : นโยบายรัฐบาล ข่าวสารทางราชการ ความสงบเรียบร้อยของสังคม ขัดศีลธรรมอันดี และความมั่นคงภายในประเทศ จำนวน 102 เรื่อง
กลุ่มที่ 2 : ผลิตภัณฑ์สุขภาพ วัตถุอันตราย เครื่องสำอาง รวมถึงสินค้าและบริการที่ผิดกฎหมายจำนวน 63 เรื่อง
กลุ่มที่ 3 : ภัยพิบัติ จำนวน 14 เรื่อง
กลุ่มที่ 4 : เศรษฐกิจ จำนวน 4 เรื่อง
กลุ่มที่ 5 : กลุ่มอาชญากรรมออนไลน์ จำนวน 23 เรื่อง
นายเวทางค์ กล่าวว่า เมื่อพิจารณาจากข่าวปลอมที่ได้รับความสนใจในลำดับต้นๆ ในสัปดาห์นี้ พบว่าเป็นข่าวเกี่ยวกับโครงการของรัฐ โดยเฉพาะโครงการดิจิทัล วอลเล็ต การให้บริการของหน่วยงานภาครัฐ การรับสมัครงาน ซึ่งมีผลกระทบต่อสังคมส่วนใหญ่ ทำให้เกิดความเข้าใจผิด สับสน และวิตกกังวลได้ รวมทั้งอาจเกิดความเสียหายต่อข้อมูลส่วนบุคคล และทรัพย์สิน โดยข่าวที่ได้รับความสนใจจากประชาชนมากที่สุด 10 อันดับ ได้แก่
อันดับที่ 1 : เรื่อง รีบยืนยันตัวตนรับเงินดิจิทัลวอลเล็ตเฟส 3 ก่อนโดนตัดสิทธิ์
อันดับที่ 2 : เรื่อง เพจใบขับขี่ออนไลน์ทุกชนิด ลดราคาใบขับขี่ ผู้ใช้งานใหม่ 1,500 บาท
อันดับที่ 3 : เรื่อง ธ.ออมสิน ปล่อยกู้รายละ 800,000 บาท ดอกเบี้ย 0.5% ต่อเดือน เปิดลงทะเบียนถึงวันที่ 31 มี.ค. 68
อันดับที่ 4 : เรื่อง เรือนจำไทย มีขาใหญ่ นช.สมเด็จ ดูแลนักโทษ เงินหมุนเวียน เข้าบัญชีม้า 10-20 ล้านบาท
อันดับที่ 5 : เรื่อง ธนาคารออมสิน เปิดให้กู้ทุกอาชีพ วงเงิน 100,000 บาท ติดต่อผ่าน TikTok amy1994_16
อันดับที่ 6 : เรื่อง รับสมัครงานเกษตร ประเทศออสเตรเลีย ติดต่อผ่านเพจ บริษัทจัดหางานเอกชน
อันดับที่ 7 : เรื่อง สามารถติดต่อ กฟภ. ได้ผ่านช่องทาง Line ID pea214414
อันดับที่ 8 : เรื่อง เพจชนิชา /รับทำใบอนุญาตขับรถทุกชนิด พื้นที่.4 รับทำใบขับขี่ผ่านระบบออนไลน์ เฉพาะผู้ที่ไม่สะดวกมาขนส่ง
อันดับที่ 9 : เรื่อง ปลอมอีเมลกระทรวงดิจิทัลแจ้งออกใบอนุญาตก่อตั้งกาสิโนอย่างถูกกฎหมาย
อันดับที่ 10 : เรื่อง กฟภ. เปิดให้บริการออนไลน์ ผ่านเว็บไซต์ https://pea-th.com/
“เมื่อพิจารณาจากข่าวปลอมที่ประชาชนสนใจมากที่สุด จาก 10 อันดับข้างต้น พบว่าเป็นข่าวที่เกี่ยวข้องกับเรื่องโครงการของรัฐ โดยเฉพาะโครงการดิจิทัล วอลเล็ต การให้บริการทำใบขับขี่ของกรมขนส่งทางบก การรับสมัครงาน ซึ่งทั้งหมดมีผลกระทบต่อประชาชน โดยในส่วนของข่าวปลอมที่เกี่ยวข้องกับโครงการดิจิทัล วอลเล็ต และการให้บริการทำใบขับขี่ออนไลน์นั้น ขอให้ประชาชนระมัดระวัง การแอบอ้างของมิจฉาชีพ ซึ่งอาจมีความเสี่ยงทำให้สูญเสียข้อมูลส่วนบุคคล และทรัพย์สินได้ โดยหากมีการแชร์ส่งต่อกันไปในสังคม มีผลทำให้ประชาชนเกิดความสับสน ส่งผลกระทบกับประชาชนทั่วประเทศเป็นวงกว้าง” นายเวทางค์ กล่าว
สำหรับ อันดับ 1 เรื่อง “รีบยืนยันตัวตนรับเงินดิจิทัลวอลเล็ตเฟส 3 ก่อนโดนตัดสิทธิ์” กระทรวงดีอี ได้ประสานงานร่วมกับ สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) (สพร.) หรือ DGA สำนักนายกรัฐมนตรี ตรวจสอบพบว่า เป็นข้อมูลเท็จ โดยขอชี้แจงว่า การยืนยันตัวตนของประชาชนบนแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” สามารถทำได้ถึงวันที่ 15 กันยายน 2567 เท่านั้น ทั้งนี้หากประชาชนเข้า “แอปฯ ทางรัฐ” และกดลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ แล้วมีหน้าจอยืนยันตัวตนแสดงขึ้นมา อาจเกิดจากการไม่ได้เข้าแอปฯ เป็นเวลานาน หรือเคยลบแอปฯ ไปหลังจากลงทะเบียนและยืนยันตัวตนเรียบร้อยภายในระยะเวลาที่กำหนด แต่ไม่สามารถยืนยันตัวตนใหม่ได้
ในส่วนข่าวปลอมอันดับ 2 เรื่อง “เพจใบขับขี่ออนไลน์ทุกชนิด ลดราคาใบขับขี่ ผู้ใช้งานใหม่ 1,500 บาท”กระทรวงดีอี ประสานงานร่วมกับ กรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม ตรวจสอบพบว่าเป็นข้อมูลเท็จ โดยขอชี้แจงว่า ข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลปลอมที่เชื่อถือไม่ได้โดยการขอรับใบอนุญาตขับรถทุกชนิดมีมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ คือ ผู้ขอรับใบอนุญาตขับรถจะต้องดำเนินการด้วยตนเองทุกขั้นตอนที่สำนักงานขนส่ง ตั้งแต่การตรวจสอบเอกสาร การทดสอบสมรรถภาพของร่างกาย การอบรม การทดสอบข้อเขียน การทดสอบขับรถ และการถ่ายรูปเพื่อออกใบอนุญาตขับรถ จึงขอเตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อ และอย่าให้ข้อมูลส่วนตัวโดยเด็ดขาด
อย่างไรก็ตาม ดีอี มีความห่วงใยประชาชน เรื่องความตระหนักรู้เท่าทันข่าวปลอมที่ถูกแพร่กระจายบนสื่อออนไลน์ โซเชียล ซึ่งหากขาดความรู้เท่าทันส่งต่อข้อมูลข่าวปลอม ทำให้เกิดการหลงเชื่อ สร้างความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน เกิดความวิตกกังวล หรืออาจสร้างความเสียหายต่อชีวิต ทรัพย์สิน หรือข้อมูลส่วนบุคคล และอาจส่งผลกระทบต่อประชาชนในสังคมเป็นวงกว้าง ดังนั้นจึงควรตรวจสอบข้อเท็จจริงของข่าวหรือลิงก์เว็บไซต์ให้แน่ชัด
สามารถแจ้งเบาะแส ข่าวปลอม และอาชญากรรมออนไลน์ทุกรูปแบบ โทรสายด่วน 1111 (24 ชม.)
| Line ID: @antifakenewscenter | เว็บไซต์ www.antifakenewscenter.com