ขู่เอาไปเลี้ยงหน้าทำเนียบหากรัฐบาลแก้ปัญหาหมูเถื่อนไม่ได้

ที่ จ.นครศรีธรรมราช นายปรีชา กิจถาวร นายกสมาคมการค้าผู้เลี้ยงสุกรภาคใต้ พร้อมด้วย นายโสภณ พรหมแก้ว ที่ปรึกษาสมาคมการค้าผู้เลี้ยงสุกรจังหวัดนครศรีธรรมราช นายอภิวัช สินเจริญรุ่ง  นายกสมาคมการค้าผู้เลี้ยงสุกรจังหวัดนครศรีธรรมราช นายสำรอง รักชุม ตัวแทน สมัชชาผู้เลี้ยงสุกรรายย่อยภาคใต้ ได้เข้าร่วมหารือทิศทางการแก้ไขปัญหาวิกฤตการลักลอบนำเข้าเนื้อสุกรเถื่อนจากต่างประเทศที่นำมาขายในราคาต่ำ ส่งผลกระทบกับผู้เลี้ยงสุกรรายย่อยในประเทศไทย อย่างต่อเนื่อง และยังมีต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นถึง 40 เปอร์เซ็น

ทั้งนี้ ที่ประชุมได้ลงความเห็นว่า ไม่มีความมั่นใจต่อการแก้ไขปัญหาได้อย่างต่อเนื่องจริงจัง และได้สรุปแนวทาง เรียกร้องให้มีการปราบปรามหมูเถื่อนอย่างจริงจัง ปราบปรามอย่างต่อเนื่องและนำตัวผู้ที่กระทำความผิดและผู้อยู่เบื้องหลังมาดำเนินคดี การลดต้นทุนราคาวัตถุดิบการเลี้ยงซึ่งคิดเป็นต้นทุนได้ประมาณถึง 70 เปอร์เซ็น ของต้นทุนการผลิตทั้งหมด การให้การช่วยเหลือด้านทุนการผลิตจากแหล่งทุนจากภาครัฐอย่างจริงจัง การควบควบคุมโรคระบาดจากหมูเถื่อน และยังได้กำหนดความเคลื่อนไหวการรวมตัวในวันที่ 12  ธ.ค.66 จะเดินทางไปพบนายกรัฐมนตรี หลังจากนั้นในวันที่ 15 ธ.ค.66 จะมีการกำหนดเคลื่อนไหวสำคัญอีกครั้ง

นายโสภณ พรหมแก้ว ที่ปรึกษาสมาคมการค้าผู้เลี้ยงสุกรภาคใต้ กล่าวว่า มีขบวนการที่ผสมผสาน ส่วนที่ไปเกี่ยวข้องคือนักการเมืองตัวเป็น ๆ ข้าราชการใหญ่ๆหลายกรมกองและนายทุน หากสมาคมฯ รายย่อยไม่ลุกมาต่อสู้ขบวนการนี้ก็ยังคงอยู่ วันนี้ผู้เลี้ยงสุกรรายย่อยของประเทศไทยเหลือเพียง 30 เปอร์เซ็น นั่นคือขบวนการที่เขาจะครอบงำได้ทั้งระบบการผลิตสุกรในประเทศได้ทั้งหมด ผู้บริโภคจะถูกกำหนดราคาให้ซื้อได้โดยไม่กี่บริษัท เพราะว่าตัวกีดกันพวกเขาคือเกษตรกรรายย่อยหายไปหมดแล้ว

นายโสภณ ยังตั้งข้อสังเกตด้วยว่า ที่บอกว่าจะปราบปรามอย่างจริงจังจับคนนำหมูเถื่อนเข้ามาโดยเฉพาะตัวใหญ่ที่อยู่ข้างหลังให้ได้ เมื่ออธิบดีดีเอสไอจะได้ตัว กลับมีการย้ายมันคืออะไร สังคมติดตามเรื่องนี้อย่างต่อเนื่องเช่นกัน

ขณะที่ นายสำรอง รักชุม ตัวแทนสมัชชู้เลี้ยงสุกรภาคใต้ กล่าวว่า นอกจากปัญหาหมูเถื่อนส่งผลกระทบอย่างหนักขณะนี้คือเรื่องของต้นทุนการผลิตที่เพิ่มสูงขึ้นถึง 40 เปอร์เซ็น และยังมีความล่าช้าของการเข้าขอกู้จากแหล่งเงินทุนเป็นไปอย่างยากลำบาก หากยังปล่อยให้สถานการณ์เป็นไปเช่นนี้ต่อไปอีก 3 เดือนประเทศไทยจะไม่เหลือผู้เลี้ยงรายย่อย

นอกจากนั้น สมัชชาผู้เลี้ยงสุกรรายย่อยที่เกิดจากการรวมตัวของสมาคมจากแต่ละจังหวัดของภาคใต้มีการนัดหมายที่จะรวมตัวเดินทางไปพบ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เพื่อให้กำลังใจและขอให้ช่วยสั่งการเร่งให้ผู้เกี่ยวข้องดำเนินการกับปัญหาผู้เลี้ยงสุกรอย่างจริงจังและต่อเนื่อง หลังจากนั้นในวันที่ 15 ธ.ค.66 จะมีการประชุมใหญ่ของสมัชชาผู้เลี้ยงรายย่อยที่ จ.พัทลุง ซึ่งเป็นไปได้ว่าหากปัญหาไม่ได้รับการแก้ไขนั้นอาจไปรวมตัวกันอีกครั้งนำหมูไปเลี้ยงกันที่หน้าทำเนียบก็เป็นไปได้กลุ่มผู้เลี้ยงรายย่อยระบุ

Message us